อธิบดีชี้รีสอร์ท พปชร.สัมมนารุกที่อุทยานทับลาน

2019-07-23 15:50:24

อธิบดีชี้รีสอร์ท พปชร.สัมมนารุกที่อุทยานทับลาน

Advertisement

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯรายงาน รมว.ทส. รีสอร์ท ที่ พปชร.สัมมนา ส.ส. รุกป่าทับลาน อยู่ในเขตอุทยานฯทั้งแปลงไม่ใช่ที่ ส.ป.ก. ดื้อก่อสร้างทั้งที่ถูกแจ้งจับถึง 2 ครั้ง อัยการสั่งไม่ฟ้องเหตุ ส.ป.ก.โคราชอ้างเขตปฏิรูป แต่ตำรวจไม่แจ้งอุทยานฯ ยันยังต้องเดินตาม ม.22 พร้อมฟ้องแพ่งต่อ ด้าน “ดำรงค์”ซัดผู้มีอำนาจสั่งปากเปล่าชะลอคดีทำปัญหายืดเยื้อ พรรคการเมืองไปสัมมนา ส.ส.ไม่เหมาะทำนายทุนไม่กลัวกฎหมาย จ่อลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีพร้อมให้กำลังใจ จนท.รื้อถอน

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม (ทส.) ได้รายงานต่อนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารกระทรวง ระบุว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เลือกสถานที่จัดงานสัมมนา ส.ส. ณ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท อ.วังน้ำเขียวจ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบริเวณที่อุทยานแห่งชาติทับลานจับกุมดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกพื้นที่ในเขตอุทยานฯ ขอรายงานข้อมูลความเป็นมาเกี่ยวกับการจับกุมดำเนินคดี 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท ดังนี้1. เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2555 ได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดดำเนินคดี 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท โดยตรวจพบพบมีสิ่งก่อสร้างลักษณะเป็นที่พัก 1 หลัง มีการปลูกต้นมะม่วงไว้เกือบเต็มพื้นที่ คำนวณพื้นที่ได้ประมาณ 20 ไร่ จึงแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว ปจว. ข้อ 9 คดีอาญาที่ 560/55 ลงวันที่ 9 พ.ค. 2555 (นายดำรงค์ พิเดช เป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในขณะนั้น)

2.เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2560 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ และอุทยานแห่ชาติทับลาน ได้เข้าตรวจยึดดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีการปลูกสร้างอาคารและบ้านพัก ลักษณะเป็นรีสอร์ท และมีการเปิดให้บริการกางเต็นท์และบ้านพัก ซึ่งพบมีสิ่งปลูกสร้าง 18 รายการ อาทิ สระน้ำ บ้านไม้ในลักษณะต่างๆ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว ตามที่ได้กล่าวโทษร้องทุกข์ไว้แล้ว เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายธัญญา ระบุอีกว่า 3. ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินของราษฎรในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียวมาโดยตลอด จึงได้มีการชะลอการพิจารณาการติดประกาศ ตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 เนื่องจากต้องการหาแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎร ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ฉบับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันอุทยานแห่งชาติทับลาน อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อประกาศใช้มาตรา 22 กับแปลงที่ดินที่ถูกดำเนินคดี ต่อไป 4. พื้นที่ที่ได้จับกุมดำเนินคดีดังกล่าว อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานทั้งแปลง และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแก่งดินสอ ป่าแก่งใหญ่ และป่าเขาสะโตน ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 239 (พ.ศ. 2510) กฎกระทรวง ฉบับที่ 812 (พ.ศ. 2521) และกฎกระทรวง ฉบับที่ 895 (พ.ศ. 2523) ซึ่งกรมป่าไม้ ไม่เคยมอบพี้นที่ดังกล่าวให้ ส.ป.ก. เข้าไปดำเนินการปฏิรูป และพื้นที่ดังกล่าวมิได้อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ ส.ป.ก. ตามประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินฯ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2521 แต่อย่างใด

อธิบดีอุทยานแห่งชาติ ระบุอีกว่า 5. จากการประสานงานทางโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว ทราบว่า อัยการเจ้าของสำนวนคดีได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว และแจ้งเหตุผลที่สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา มายังสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2561 แต่สถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว ก็ไม่ได้ดำเนินการแจ้งให้อุทยานแห่งชาติทับลานทราบ ตามมาตรา 146 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งจากการตรวจสอบเหตุผลที่อัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนั้น เนื่องจาก สนง.สปก.จ.นครราชสีมา ได้ให้ข้อมูลต่ออัยการว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2521 ทั้งที่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานทั้งแปลง ยังมิได้มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 แต่อย่างใด ข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว มีความคล้ายคลึงกับคดีของ อิมภูฮิลล์ รีสอร์ท ซึ่งอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายชำนาญ กลิ่นจันทร์ เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากพบว่านายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ได้กระทำการออกเอกสารสิทธิ์ สร.5 ก. โดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ส.ป.ก. ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่ามีความพยายามใช้โครงการของรัฐบาลในการเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มนายทุนที่ได้ถูกดำเนินคดีไว้แล้ว สำหรับเป็นเครื่องมือในการต่อสู้คดีเพื่อให้หลุดพ้นจากความผิด ประกอบกับได้มีการนำแนวเขตตามโครงการ ONE MAP มากล่าวอ้างในบริเวณที่ได้ตรวจยึดดำเนินคดีไว้แล้วว่าเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. จึงทำให้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎร และการดำเนินคดีต่างๆของกรมอุทยานแห่งชาติฯในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ถูกบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง”นายธัญญา ระบุ

ด้านนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์ กล่าวว่า จากการติดตามกรณีที่เกิดขึ้นทราบว่า รีสอร์ทดังกล่าวถูกจับดำเนินคดีถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในยุคที่ตนเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ โดยตรวจสอบพบบ้านพัก 1 หลัง และสวนมะม่วง แต่ไม่พบผู้แสดงตนเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงประกาศให้มีการรื้อถอนตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ต่อมามีผู้อ้างว่าเป็นเจ้าของ คือ นายภุชพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งมีการส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามขั้นตอนของกฎหมาย

นายดำรงค์ กล่าวต่อว่า ต่อมาในปี 2560 เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือได้เข้าจับกุมอีกครั้ง ตรวจยึดพื้นที่ 30 กว่าไร่ พบมีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งเรื่องไปยังอัยการ แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าผู้ประกอบการขาดเจตนา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แจ้งผลที่อัยการสั่งไม่ฟ้องมายังอุทยานฯทับลาน ซึ่งการสั่งไม่ฟ้องไม่ได้หมายความว่าคดีจบ ทางกรมอุทยานฯ ต้องประกาศใช้มาตรา 22 เพื่อให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป ประกอบกับที่ผ่านมาผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจไปผ่อนผันกับคนในพื้นที่ว่าไม่ให้ใช้มาตรา 22 ในการรื้อถอน โดยสั่งปากเปล่า เด็กก็กลัวไม่กล้าดำเนินการอะไร จนทำให้ปัญหาบานปลายจนถึงทุกวันนี้

หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวต่อว่า ส่วนนักการเมืองที่ไปจัดประชุมก็เป็นเรื่องไม่ควรและไม่เหมาะสม เพราะเราเป็นพรรครัฐบาล ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ไม่เกรงกลัวความผิดและกฎหมายบ้านเมือง ส่วนที่อ้างว่าเป็นที่ ส.ป.ก.นั้น ไม่ใช่แน่นอน เพราะอุทยานไม่เคยมอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้ ส.ป.ก. และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ สปก.ที่รับรองเขตก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว

นายดำรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้ตนได้ให้คำแนะนำหัวหน้าอุทยานฯ ในการประกาศใช้มาตรา 22 ได้ทันที โดยให้ประกาศแจ้งเตือน 2 ครั้ง แล้วจึงเข้าไปรื้อถอนตามกฎหมาย ซึ่งหากมีการรื้อถอนตนจะเดินทางไปร่วมให้กำลังใจด้วย ทั้งนี้ในฐานะ ส.ส. ตนจะลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ปัญหารีสอร์ทบ้านพักตากอากาศของนายทุนที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯทับลาน ในเร็วๆนี้