พท.ลั่นอภิปรายคุณสมบัตินายกฯ (คลิป)

2019-07-22 11:45:45

พท.ลั่นอภิปรายคุณสมบัตินายกฯ (คลิป)

Advertisement

พท.ซักซ้อมความพร้อมในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ก่อนประชุมวิปฝ่ายค้าน 7 พรรค 23 ก.ค. ลั่นอภิปรายคุณสมบัตินายกฯ ไม่ชี้นำศาล

เมื่อวันที่ 22 ก.ค.นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ซึ่งระยะเวลาในการอภิปรายจากเดิมที่ยื่นขอไว้ 3 วัน แต่ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 2 วัน ทำให้ฝ่ายค้านมีเวลาในการอภิปรายเพียงแค่ 13 ชม. ว่า ฝ่ายรัฐบาลระบุเหตุผลว่าหากใช้เวลาอภิปราย 3 วัน จะชนกับช่วงบรรยากาศวันสำคัญของประเทศ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ยอมรับว่าการลดวันลง ทำให้การทำงานลำบาก เพราะมี ส.ส. ที่แสดงความจำนงจะอภิปรายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจะต้องมีการบริหารให้สามารถอภิปรายได้ครบภายในวันเวลาที่จำกัด ซึ่งวันนี้พรรคเพื่อไทยจะซักซ้อมความพร้อมทั้งในส่วนของประเด็น ใครที่มีเนื้อหาซ้ำซ้อน หรือใครที่จะเหมาะสมขึ้นอภิปรายในครั้งนี้ และใครที่ควรจะรออภิปรายในครั้งหน้า ต้องมีการทำความเข้าใจให้ตรงกัน


เมื่อถามถึงกรณีการอภิปรายถึงคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว จะสามารถอธิบายได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ในเรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคเตรียมความพร้อมในการให้ความรู้ หากเราไม่ไปชี้นำศาล ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา มั่นใจหากทำความเข้าใจกันทั้งหมด จะรู้ว่ากรอบในการอภิปรายสามารถทำได้เพียงใด เรื่องคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีวันนี้ ตนเชื่อว่านายกฯ และรัฐบาลเองต่างหาก ที่จะลำบากในการตอบ อย่างไรก็ตามในวันที่ 23 ก.ค. จะมีการประชุมร่วมวิปฝ่ายค้าน 7 พรรค ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนพรรคอนาคตใหม่ยังไม่ได้ตอบรับว่าจะเข้าร่วม แต่เบื้องต้นมีสูตรในการคิดคำนวณด้วยกันมาตลอด ในการแบ่งเวลาขึ้นอภิปรายของแต่ละพรรคให้ลงตัวเหมาะสม

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะมาลงเล่นการเมืองในสังกัดพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นสิ่งที่สังคมรับรู้มาตามลำดับ เราเองก็รับรู้มาว่า พล.อ.ประวิตร คือ เจ้าของ หรือ คนก่อตั้งตัวจริงของพรรคพลังประชารัฐ เพียงแต่จะใช้จังหวะเวลาใดในการเปิดตัว ดังนั้นเป็นเรื่องน่ายินดีด้วยซ้ำ ที่จะลงมาเล่นการเมืองแบบเปิดหน้า เปิดตาชัดเจน เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบผ่านพรรคนั้นได้ แทนการลับๆล่อๆเป็นอีแอบ เพราะจะทำให้ประชาชนตรวจสอบได้ยาก