"อุตตม" ลั่นปรับโครงสร้างภาษีลดเหลื่อมล้ำ

2019-07-20 19:10:09

"อุตตม" ลั่นปรับโครงสร้างภาษีลดเหลื่อมล้ำ

Advertisement

"อุตตม" ประกาศปรับโครงสร้างภาษี เหตุมีความเหลื่อมล้ำสูง เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล กับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่มีอัตราจัดเก็บห่างกัน คือ 35 % กับ 25% จึงต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ว่าด้วยเรื่องโครงสร้างภาษี เมื่อวาน 19 ก.ค. 2562 ผมเข้าทำงานที่กระทรวงการคลังเป็นวันแรก มีผู้มาแสดงความยินดีหลายท่าน จึงขอขอบคุณทุกท่านที่มาให้กำลังใจ โดยเฉพาะคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และ คุณอนุชา นาคาศัย วันเดียวกันนี้ ผมได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยใจความสำคัญคือ กระทรวงการคลัง จะเร่งกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจประเทศอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะภาคเศรษฐกิจฐานราก ทั้งการเกษตร และเอสเอ็มอี ขณะเดียวกันการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ก็เป็นนโยบายเร่งด่วน เช่นโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผมยืนยันว่าจะได้รับการสานต่อ เพราะเป็นโครงการที่ดี และประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง

นายอุตตม ระบุต่อว่า อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการการเงินการคลัง ต้องคำนึงถึงวินัยการคลัง พูดภาษาชาวบ้านก็คือ รัฐบาลต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และต้องพิจาณาควบคู่ไปกับการจัดหาเงินรายได้ด้วย ซึ่งจะเป็นแนวทางในการบริหารจัดการแบบยั่งยืน ในการแถลงข่าว มีผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายการปรับลดภาษีบุคคลธรรมดา ว่า หากคำนึงถึงวินัยการคลังแล้ว นโยบายดังกล่าวจะต้องเลื่อนไปใช่หรือไม่ กระทั้งมีข่าวบางส่วนออกไปว่า ผมจะไม่ดำเนินการเรื่องนี้แล้ว ซึ่งไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ผมขออธิบายเพิ่มว่า นโยบายด้านภาษีของพลังประชารัฐที่หาเสียงไว้ ไม่ได้หมายถึงการลดภาษีเป็นตัวเงินตรงๆ แต่หมายถึงการทบทวนโครงสร้างภาษี เพราะว่ามีความเหลื่อมล้ำสูงอยู่ เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล กับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่มีอัตราจัดเก็บห่างกันพอสมควร คือ 35 % กับ 25% จึงควรปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ซึ่งต้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาในรายละเอียดร่วมกัน

"ผมขอย้ำว่า การปรับโครงสร้างภาษี จะได้รับการพิจารณาอย่างแน่นอน และโดยส่วนตัวก็ให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำ อัตราที่ห่างกันระหว่างภาษีบุคคลธรรมดา กับนิติบุคคล ควรลดลง แต่การดำเนินการทั้งหมดทั้งมวล จะอยู่ภายใต้กรอบแนวคิดการบริหารการเงินการคลังอย่างมีวินัย และเน้นประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์อย่างยั่งยืนครับ"นายอุตตม ระบุ