ตัวเลขผู้เสียชีวิตในเอเชียใต้ ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเกิดน้ำท่วมและดินถล่มทั่วพื้นที่พรมแดนอินเดียและเนปาล ส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย และหลายล้านคนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 110 รายในอินเดียและเนปาล ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูมรสุม เมื่อสุดสัปดาห์ ฝนหยุดตกในเนปาลแล้วเมื่อวันอังคาร แต่ภัยพิบัติยังรุนแรงต่อไป เนื่องจากคาดว่าจะยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องในอินเดีย, บังกลาเทศและปากีสถาน ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย เลวร้ายลงอีกเมื่อวันอังคาร เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำหลายสายเอ่อล้นฝั่ง ไหลทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้าน ประชาชนมากกว่า 6.7 ล้านคนในอินเดีย ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วมครั้งนี้ โดยมีประมาณ 2.5 ล้านคนในรัฐพิหาร และ 4.2 ล้านคนในรัฐอัสสัม ขณะที่ ทหารประมาณ 1,000 นาย ถูกส่งเข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว นอกจากนี้ น้ำยังทะลักเข้าท่วมอุทยานแห่งชาติคาซีรันกา ซึ่งเป็นที่อาศัยของแรดนอเดียวใกล้สูญพันธุ์ ทำให้สัตว์ชนิดต่าง ๆ ต้องอพยพขึ้นไปอยู่ที่สูง ซึ่งรวมทั้งที่พักอาศัยของคนด้วย โดยจากข้อมูลของรัฐบาล พบว่า เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ 2 ครั้งในปี 2560 มีสัตว์ป่าประมาณ 361 ตัวจมน้ำตาย ซึ่งรวมทั้งแรด 31 ตัวและเสือ 1 ตัว
ส่วนเนปาลดูเหมือนจะได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 78 ราย

ในรัฐพิหารและรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย เสียชีวิต 29 ราย ขณะเดียวกัน ก็เกิดน้ำท่วมฉับพลันทั่วปากีสถานและบังกลาเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับอินเดียทางตะวันออกและตะวันตก ในปากีสถานมีผู้เสียชีวิต 28 ราย และ 16 รายในบังกลาเทศ