น้ำท่วมในเอเชียใต้ยังรุนแรงต่อเนื่อง อินเดียต้องอพยพประชาชนกว่า 3 ล้านคนในรัฐอัสสัม และรัฐพิหาร ส่วนในเนปาลและบังกลาเทศ ก็ถูกน้ำท่วมหนักเช่นกัน รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 130 ราย
ประชาชนมากกว่า 3 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยทั่วภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย จากอุทกภัย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยพายุฝนและน้ำท่วมเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างทั้งในเนปาล, บังกลาเทศและอินเดีย มีผู้เสียชีวิตรวมกันแล้วมากกว่า 130 ราย ซึ่งในเนปาลประเทศเดียว มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 67 ราย, ยังมีผู้สูญหายอีก 30 คน และบาดเจ็บอีก 38 คน จนถึงเมื่อวันจันทร์
อุทกภัยใหญ่ครั้งนี้ ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตในบังกลาเทศด้วย ซึ่งรวมทั้งค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาที่แออัด และคาดว่า สภาพภูมิอากาศเลวร้าย จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในอีกหลายวัน
ส่วนแม่น้ำพรหมบุตร ซึ่งไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัย ผ่านอินเดีย, บังกลาเทศและจีน เอ่อล้นฝั่ง ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านกว่า 1,800 แห่งในรัฐอัสสัม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย นอกจากนี้ ประชาชนเกือบ 2 ล้านคน ในรัฐพิหาร ทางภาคเหนือของประเทศ ไร้ที่อยู่อาศัย เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และประชาชนกว่า 1.7 ล้านคนในรัฐอัสสัม อพยพออกจากบ้านเรือนตัวเอง หลังน้ำท่วมสูง

ในบังกลาเทศ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 29 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมทั้ง 18 คน จากฟ้าผ่าและ 7 คนจมน้ำ เมื่อเรือของพวกเขาอับปางในอ่าวเบงกอล ส่วนในเมืองคอกซ์บาซาร์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจากว่า 1 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมและฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนสูง 58.5 เซนติเมตร หรือ 23 นิ้วในเดือนนี้ และยังเกิดดินถล่มหลายร้อยครั้งตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย ซึ่งรวมทั้งเด็กชาวโรฮีนจา 2 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ฤดูมรสุมจะใช้เวลาเริ่มจากเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน และสร้างความเสียหายอย่างหนักในเอเชียใต้เป็นประจำทุกปี มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,200 คน ในภูมิภาคนี้ ท่ามกลางพายุฝนและดินถล่มเมื่อปีที่แล้ว โดยรัฐเกรละของอินเดีย เผชิญน้ำท่วมเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 100 ปี