ศิริราชทุ่ม 1,800 ล้านสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ

2019-07-12 11:40:32

ศิริราชทุ่ม 1,800 ล้านสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ

Advertisement

ศิริราชพร้อมจัดสร้าง "ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ" ต้นแบบการดูแลรองรับสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ บนพื้นที่ 25 ไร่  อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ก.ค.ที่ ห้องจุฬาภรณ์ ตึกสยามินทร์ ชั้น 2 รพ.ศิริราช ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับ นายสมคิด จันทมฤก  ผวจ.สมุทรสาคร แถลงข่าว “โครงการจัดสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ” โดยมี ศ.นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผอ.รพ.ศิริราช "แพนเค้ก-เขมนิจ" พร้อมมารดา  นางนงนวล จามิกรณ์  ตลอดจนคณะกรรมการ ฯ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมด้วย 


ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ปัจจุบันประชากรผู้สูงอายุทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข ในหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศไทย ที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ตามคำนิยามขององค์การอนามัยโลก กล่าวคือ มีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรไทย และสูงเป็นอันดับที่ 3 ของเอเชีย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญถึงการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2528 ได้มีการพัฒนาด้านการศึกษา การวิจัยและการบริการอย่างต่อเนื่อง บัดนี้ ด้วยการสนับสนุนจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายใต้แผนบูรณาการสร้างความเสมอภาคเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ได้ร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  ดำเนินโครงการจัดสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เนื่องด้วยความพร้อมและศักยภาพในการรองรับการดำเนินการในหลายด้านของจังหวัด จึงนำมาสู่ความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ จ.สมุทรสาคร โดยมุ่งหวังให้ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ สร้างระบบการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นต้นแบบของประเทศ โดยเฉพาะการดูแลระยะกลาง (intermediate care) เพื่อให้ผู้ป่วยสูงอายุหลังพ้นการเจ็บป่วยในระยะเฉียบพลันแล้ว ได้เตรียมตัวกลับไปใช้ชีวิตต่อที่บ้านได้ ลดระยะเวลาการต้องอยู่ในโรงพยาบาลนานเกินไป และสามารถป้องกันการกลับมาเจ็บป่วยซ้ำ หรือต้องมารับการรักษาในโรงพยาบาลซ้ำซ้อนอีก


ผลจากการดำเนินการทำให้เกิดองค์ความรู้เฉพาะทางสำหรับกลุ่มผู้ป่วยสูงวัย เป็นต้นแบบขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ของประเทศในอนาคต ตลอดจนเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคต่าง ๆ ในผู้สูงอายุไปยังประชาชนผู้สนใจทั่วไป สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 ในยุทธศาสตร์ที่ 2 ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ในด้านอุตสาหกรรมและบริการการแพทย์ครบวงจร ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ที่ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ และยุทธศาสตร์ที่ 4 ยุทธศาสตร์การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม รองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน


ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ขนาดพื้นที่ 25 ไร่ ตั้งอยู่ห่างจาก รพ.ศิริราช 35 กิโลเมตร ณ ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้รับการจัดสรรงบประมาณแผนบูรณาการการสร้างความเสมอภาคเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ตามยุทธศาสตร์ด้านการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ เป้าหมายด้าน สภาพแวดล้อม และนวัตกรรมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดีเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ภายใต้กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 1,800 ล้านบาท




การดำเนินโครงการ แบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2562 - 2563 และระยะที่ 2 ปีงบประมาณ 2563 - 2564 ประกอบด้วย

1) A ศูนย์ฝึกอบรมและวิจัย อาคาร 4 ชั้น

2) B อาคารผู้ป่วยนอก อาคาร 2 ชั้น

3) C ศูนย์ฟื้นฟูผู้สูงอายุ อาคาร 3 ชั้น

4) D หอผู้ป่วยใน 1 อาคาร 3 ชั้น (ห้องผู้ป่วยทั่วไป 40 ห้อง ห้องผู้ป่วย Respite 6 ห้อง) 

5) E หอผู้ป่วยใน 2 อาคาร 3 ชั้น (ห้องผู้ป่วยทั่วไป 22 ห้อง ห้องผู้ป่วย Dementia 12 ห้อง)

6) F หอพักบุคลากร อาคาร 9 ชั้น (317 เตียง)

7) G อาคารสนับสนุน อาคาร 2 ชั้น พื้นที่ 1,815 ตร.ม. (งานครัว งานผ้า)

8) H บ่อบำบัดน้ำเสียรวม

9) I อาคารพักขยะ

10) อื่นๆ ได้แก่ ทางเชื่อม งานภายนอกและงานภูมิสถาปัตยกรรม


ให้บริการทั้งผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก ดังนี้

ผู้ป่วยใน (IPD) รับผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลใกล้เคียง เข้ารับการดูแลในระยะกลาง (Intermediate care) เข้ารับการฟื้นฟูสภาพร่างกาย เช่น การรักษาตามหลักการ เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ การทำกายภาพบำบัด การดูแลทางโภชนบำบัด และอื่น ๆ กรณีที่ผู้ป่วยกลับมามีอาการเฉียบพลันที่คุกคามต่อชีวิต จะส่งกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลต้นสังกัดเดิม นอกจากนั้น ยังมีการดูแลผู้ป่วยสูงอายุระยะสั้น (Respite Care) เพื่อให้ญาติและผู้ดูแลมีระยะเวลาพักจากการดูแลผู้ป่วยสูงอายุมานานบ้าง

ผู้ป่วยนอก (OPD) มีการบริการใน 5 ลักษณะ ได้แก่ คลินิกสุขภาพดี คลินิกเฉพาะโรคในกลุ่มอาการสูงอายุ (Geriatric Syndrome) เช่น สมองเสื่อม (Dementia) ภาวะซึมสับสนเฉียบพลัน (Delirium) ภาวะหกลม (Falling) โรคซึมเศรา (Depression) เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น คลินิก Day Hospital เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยสูงอายุแบบโรงพยาบาลกลางวัน คลินิกแพทย์แผนไทย และแผนก Day Care จะเป็นการจัดกิจกรรมแบบชมรมผู้สูงอายุ มีกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพทั้งด้านกายและจิต ทั้งนี้จะไม่รับผู้ป่วยฉุกเฉิน กรณีที่มีผู้ป่วยระยะเฉียบพลับ จะเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และส่งต่อให้โรงพยาบาลที่มีศักยภาพรองรับเพื่อรักษาต่อไป


กล่าวโดยสรุป การดูแลผู้ป่วยแบบ Intermediated Care คือ การรักษาพยาบาลผู้ป่วยสูงอายุระยะกลางหรือระยะรองเฉียบพลัน (Intermediate Care หรือ Sub-acute Care) มีดังนี้

1) เน้นการดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่ฟื้นไข้จากความเจ็บป่วยเฉียบพลัน มารับการดูแลแบบสหสาขาวิชาชีพด้วยหลักการทางเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ (Geriatic Medicine)

2) เร่งขบวนการการฟื้นไข้ ให้ผู้ป่วยสูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพทั้งด้านกาย ด้านพฤติกรรมและอารมณ์ ที่ผิดปกติ สามารถกลับบ้านได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

3) ป้องกันการเข้ารับการการรักษาซ้ำในโรงพยาบาล และการดูแลในบ้านพักคนชราซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่าย ต่อสังคมและประเทศอย่างมาก

4) ทำให้โรงพยาบาลหลักสามารถหมุนเวียนเตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยระยะเฉียบพลันรายใหม่เข้ารับการรักษาได้เร็วขึ้น

ดังนั้นการบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อการก้าวสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล จะเป็นต้นแบบ

การบูรณาการการดูแลผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน สร้างความรู้ทางวิชาการการฟื้นฟูดูแลผู้สูงอายุในระยะกลาง หรือระยะรองเฉียบพลันให้สามารถกลับบ้านและมีคุณภาพชีวิตที่ดี อันจะนำไปสู่การเผยแพร่องค์ความรู้ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ และสังคมต่อไปด้วย