"ความหวังทั้งชีวิตพังทลาย" พ่อเหยื่อบิ๊กไบค์ยังทำใจไม่ได้

2019-07-09 12:10:55

"ความหวังทั้งชีวิตพังทลาย" พ่อเหยื่อบิ๊กไบค์ยังทำใจไม่ได้

Advertisement

พ่อบัณฑิตจบใหม่เหยื่อบิ๊กไบค์เผยยังทำใจไม่ได้ แต่ให้อภัยคู่กรณีชี้ความหวังทั้งชีวิตพังทลายในชั่วพริบตาเดียว เตือนผู้ใช้รถอย่าเล่นโทรศัพท์เพราะเพียงวินาทีเดียวเปลี่ยนชีวิต

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชน น้องลิ้นจี่ หรือ น.ส.วิลาวัณย์ พุ่มมาลา อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ และเพิ่งมาเริ่มทำงานได้วันแรก ขณะกำลังข้ามทางม้าลาย บริเวณแยกกรมโยธาและผังเมือง ถ.พระราม 9 เป็นเหตุให้ผู้บาดเจ็บขาหักห้าท่อน, แขนหัก และสมองตาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยคู่กรณีปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ พร้อมกับไล่ให้ไปหาหลักฐานมาพิสูจน์ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 4 ต.ทางพระ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.วิลาวัณย์ พุ่มมาลา บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก โดยนายลำจวน พุ่มมาลา อายุ 49 ปี ผู้เป็นพ่อของน้องลิ้นจี่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า นั่งเปิดดูภาพของน้องลิ้นจี่ที่ถ่ายกับครอบครัวเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่บริเวณหน้าที่ตั้งศพของน้องลิ้นจี่ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง




นายลำจวนบอกว่า ตนเองกับแม่ของน้องลิ้นจี่ทำงานเป็นลูกจ้างของ กทม.ซึ่งเมื่อน้องลิ้นจี่โตก็นำไปอยู่อาศัยด้วยกันอยู่ที่กรุงเทพฯ รวมถึงส่งเสียจนเพิ่งจะเรียนจบและเพิ่งจะเริ่มทำงานเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมาเป็นวันแรก แต่น้องลิ้นจี่ไปไม่ถึงที่ทำงานถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พุ่งชนขณะเดินข้ามทางม้าลายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งแม้จะทำใจได้บ้างแล้วแต่เมื่อเห็นรูปลูกของตนก็อดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ น้องลิ้นจี่เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน ช่วยเหลือครอบครัว โดยหลังจากเรียนจบและได้งานทำก็บอกว่าจะให้พ่อหยุดเนื่องจากผู้เป็นพ่อมีสุขภาพที่ไม่ดี หลังจากเกิดเหตุคู่กรณีไม่เคยขึ้นไปดูน้องลิ้นจี่เลยไม่เคยขอโทษเลย ทั้งๆที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกัน จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมาคู่กรณีเดินทางมาที่งานศพและกราบขมาซึ่งตนเองก็ให้อภัยแต่ส่วนของคดีก็ต้องว่าไปตามคดี น้องเป็นความหวังของครอบครัวแต่สุดท้ายกลับมาเกิดเหตุอย่างนี้ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตน อยากจะฝากเตือนผู้ใช่รถใช้ถนนว่าควรใช้ความระมัดระวังมากกว่านี้ไม่ใช่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถทำให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้

เช่นเดียวกับนางศรีนวล แตงเนื้อเหลือง อายุ 67 ปี ยายของน้องลิ้นจี่บอกว่าตั้งแต่เลี้ยงน้องมาตั้งแต่เล็กน้องเป็นเด็กดีไม่เคยเกเรเป็นเด็กเรียบร้อยตั้งใจเรียน จนกระทั่งเรียนจบก็บอกว่าจะให้พ่อออกจากงานเนื่องจากสุภาพไม่ดีอยากให้พ่อพักบ้างแต่กลับมาเกิดเหตุอย่างนี้ ตนเองรักหลานคนนี้มากแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร



ด้านนางมยุรี พรหมา อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นญาติของน้องลิ้นจี่บอกว่า หลังเกิดเหตุเพื่อนๆของน้องเข้าไปถามคู่กรณีแต่กลับถูกพูดจาไม่ดีใส่ทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น แต่หลังจากเกิดเหตุคู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมหรือมาพูดคุยอะไรเลยมีเพียงทางพ่อและแม่ของน้องลิ้นจี่ต้องเป็นคนติดต่อไปเพราะต้องใช้หลักฐานทาง พรบ.รถจักรยานยนต์ในการรักษาตัว พยายามบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ โดยเพิ่งจะมาที่บ้านเมื่อคืนที่ผ่านมาอ้างว่ากลัวจะไม่ปลอดภัยซึ่งเป็นข้อแก้ตัวที่ไม่น่าฟังนัก

สำหรับศพน้องลิ้นจี่ หรือ น.ส.วิลาวัณย์ พุ่มมาลา อายุ 22 ปี ทางญาติจะตั้งสวดอภิธรรมศพที่บ้านจนถึงวันอังคารนี้ก่อนที่จะฌานปกิจศพในวันพุธที่ 10 ก.ค. ที่วัดกาไสย์ ต.ทางพระ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง