เป็นภรรยาเต็มตัว “รัศมีแข” ชีวิตหลังแต่งงานสุดแฮปปี้ เปิดคำพูดสามี “ฉันอยากให้เธออยู่ไปกับฉันจนฉันแก่” พร้อมเผยมองไกลอนาคตอยากให้ “น้องปกป้อง” เรียนต่อสวีเดน
เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานแบบแฮปปี้เอนดิ้งไป สำหรับนักแสดงอารมณ์ดีมากความสามารถ “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” และสามีชาวสวีเดน “โจนาส” ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้เดินทางมางานบวงสรวงละคร “หว่อ อ้าย หนี่ เธอที่รัก” พร้อมกันนี้เจ้าตัวก็ได้อัพเดตชีวิตหลังแต่งงานให้ได้ฟังกันอีกด้วยว่า…
“ชีวิตหลังแต่งงานทำอะไรก็มีความสุข ส่วนความรู้สึกก่อนแต่งและหลังแต่ง ก็ไม่ต่างกันเลย แค่รู้สึกว่าความรักมันมากขึ้น เริ่มอยากดูแล ซึ่งพอให้แล้วก็มีความสุขมากกว่าเมื่อก่อน”
หลังแต่งงานแล้วเป็นยังไงบ้าง ?
“ชีวิตดีค่ะ มีความรู้สึกว่าตัวเองสวยขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้น ทำอะไรก็มีความสุข (ยิ้ม)”
การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะเลยไหม ?
“ฟีลมันเปลี่ยนค่ะ ต้องบอกเลยว่าวันที่มีคนที่เรารักมาอยู่ด้วยกัน เหมือนเป็นความรักอัดอยู่ในลูกโป่งนะ มันแน่นไปหมด และสิ่งที่เราทำได้ก็คือร้องไห้อย่างเดียว แล้วมันเป็นความทรงจำที่ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราใช้ชีวิตทุกวันนี้ เราจะนึกถึงวันนั้น มันไม่ใช่แค่นึกถึงแฟนเราคนเดียว นึกถึงคนรอบข้างที่รักเราและเรารักเขาด้วย”
แต่งแล้วกับตอนยังไม่แต่ง ความรู้สึกมันต่างกันมากหรือเปล่า ?
“ก็ไม่ต่างนะคะ แต่แขมีความรู้สึกว่าความรักมันมากขึ้น มันทำให้เรามีความรู้สึกว่าการเป็นมนุษย์มันไม่ได้อยู่ไปวันๆ แต่เราอยู่ให้เป็นที่รักของเขา และเขาก็จะอยู่ให้เป็นที่รักของเรา”
คำสัญญาที่ให้กันในวันแต่งงาน ?
“จริงๆ คำสัญญาของเราไม่มี แต่มันจะมีคำที่สามีแขจะบอกแขตลอดว่า “ฉันอยากให้เธออยู่ไปกับฉันจนฉันแก่” ซึ่งเป็นคำเดียวที่เรารู้สึกว่ากว่าเขาจะแก่ แสดงว่าเราต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน และคอยดูแลกัน ถ้าเราไม่รีบตายก่อนนะ เราก็จะอยู่ดูแลเขาไปจนแก่เลย (ยิ้ม)”
ทำหน้าที่ภรรยาเต็มที่ใช่ไหม ?
“ตอนนี้ทำหน้าที่ในส่วนของเราดีกว่า เราก็ทำงานค่ะ เพราะการบินไปสวีเดนแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายก็สูง ปกติเราว่าง 4 วันเราก็บินได้แล้ว แขก็ต้องการกำลังทรัพย์มากพอสมควรที่จะบินไปบินมาให้ได้เยอะที่สุด”
วางแผนดูแลสามีอย่างใกล้ชิดยังไงบ้าง ?
“เคยคิดนะว่าอยากได้นาฬิกาแพงๆ นะ แต่อยู่ดีๆ ก็คิดว่าซื้อให้สามีใส่ดีกว่า (ยิ้ม) ล่าสุดเขาจะมาเมืองไทยสิงหาคมนี้จะมาออกรายการด้วยกัน เขาก็ถามว่าฉันต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ก็บอกเขาว่าเธอแพ็กกระเป๋ารออย่างเดียว ที่เหลือฉันจัดการเอง (หัวเราะ) คือมันเริ่มอยากดูแลเขา แล้วพอเราให้แล้วมันมีความสุขมากกว่าเมื่อก่อน”
มองอนาคตไว้ยังไงบ้าง ?
“ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าเก็บเงินให้ได้มากที่สุด อนาคตตอนนี้ยังไม่รู้ว่าแขอาจจะต้องบินไปบินมา ก็ต้องใช้ปัจจัยมาก และตอนนี้เราก็ติดหลานเยอะ คือปกป้อง เพราะว่าตอนนี้เรามีความรู้สึกว่าอยากให้ไปเรียนที่นู่น ด้วยความที่พี่หอมไว้ใจเรา และถ้าโตขึ้นน้องได้ไปเรียนที่นู่น แขก็ประมาณ 50 แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร”
เราวางแผนไว้แล้ว ?
“ตอนนี้คือใจอยากดูแขเขา บอกพี่หอมเลยว่าอยากให้ไปเรียนที่นู่น เพราะที่นู่นแขก็มีทุกอย่าง มีบ้าน มีสามีก็อยู่ที่นู่น เราก็คอยซัพพอร์ต คือแขมีในสิ่งที่บางทีเงินก็ซื้อไม่ได้ พร้อมที่จะให้ปกป้องได้”
ต้นหอมว่ายังไงบ้าง ?
“พี่หอมก็โอเค รับฟัง แต่ว่าทุกอย่างก็เป็นเรื่องของอนาคต มันอีก 20 ปี ประมาณนั้นเลย”
ทำไมไม่รับเด็กสักคนมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมเองเลย ?
“แขไม่อยากมีภาระที่ห่วง ความคิดของแขคือแขเกิดมาเป็นเพศนี้แล้ว ไม่สามารถมีความรักกับผู้หญิงและมีลูกได้ แขก็ถือว่าพระเจ้าคงอวยพรให้แขเกิดมาเป็นแบบนี้ และใช้ชีวิตของแขจนถึงบั้นปลาย ให้แขมีความสุขกับคนรอบข้างกับชีวิตของแขมากที่สุด”
ตอนนี้เราช่วยดูแลน้องปกป้องยังไงบ้าง ?
“สิ่งที่ให้ปกป้องได้มากที่สุดตอนนี้คือเวลา เราก็พยายามพาไปเข้านอน เพราะเรารู้สึกว่าวันหนึ่งพี่หอมทำงานแล้วเขาไปรับไม่ได้ แต่เราอาจจะไปรับที่โรงเรียนได้ เพราะฉะนั้นความใกล้ชิดสนิทสนมนี้เงินมันซื้อไม่ได้ มันต้องการเวลาเท่านั้น”
แสดงว่าหลงหลานชายหนักเลย ? “ก็ไม่เท่าไหร่ (หัวเราะ) มีก็ให้บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่แขจะบอกตลอดเลยว่า แขอาจจะไม่ได้ซื้อของอะไรให้มาก แต่แขสอนภาษาสวีดิชให้เขา แขอยากให้เขาได้ภาษาสวีดิช แขก็พูดสวีดิชกับปกป้องตลอด เด็กถ้าพูดบ่อยๆ ให้เขาฟังบ่อยๆ เขาจะเข้าใจ แขเชื่อว่าถ้าปกป้องอายุ 20 แขก็ 50 แล้ว แขเชื่อว่าตอนนั้นพี่หอมก็คงต้องไว้ใจแขแล้วล่ะที่จะส่งลูกไปเรียนที่สวีเดน มันก็ไม่ต่างอะไรถ้าพี่หอมอยากจะส่งลูกไปเรียนที่อเมริกาหรืออังกฤษ แต่สวีเดนมีแขกับสามีเท่านั้นเอง” ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @rusameekae
