สคบ.ลุยสอบโยงเอี่ยวรับส่วย สั่งผลิตยาลดอ้วน

2019-07-07 17:55:20

สคบ.ลุยสอบโยงเอี่ยวรับส่วย สั่งผลิตยาลดอ้วน

Advertisement

สคบ.ลุยสอบ หลังถูกกล่าวหาโยงมีเจ้าหน้าที่ส่งวัตถุดิบและรับส่วยจากโรงงานผลิตยาลดความอ้วน และอาการเสริมปลอม ระบุเป็นการเข้าใจผิดไม่ใช่ สคบ.แต่เป็น ปคบ.ขณะที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลุยคัดแยกของกลาง เบื้องต้นพบยาลดความอ้วนและอาการเสริมเป็นของปลอมทั้งหมด และยังพบสารต้องห้ามไซบูลทรามีน ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือด พร้อมเตรียมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและแจ้ง 7 ข้อหาหนักกับเจ้าของโรงงาน

ความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.วีระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.ขยายผลจากกรณีที่มีหญิงสาวเสียชีวิต เนื่องจากกินยาลดความอ้วนที่ จ.อ่างทอง จนนำมาสู่การสนธิกำลังของตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กำลังทหาร และฝ่ายปกครอง นำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เปิดเป็นโรงงานผลิตยาลดความอ้วน อาหารเสริม ยาไวอาก้า พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง ทั้งยาลดความอ้วน อาหารเสริม วัตถุดิบที่ใช้ผลิตยา สารต้องห้าม และอุปกรณ์ในการผลิตยาลดความอ้วนจำนวนมากนั้น

ล่าสุดวันที่ 7 ก.ค. พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.สั่งการให้นายปฐวี เยาวลักษณ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเจ้าหน้าสคบ.จากส่วนกลาง ลงพื้นที่ร่วมกับนายคณิต คงช่วย หัวหน้าสำนักงาน จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ สคบ.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ เข้าสอบปากคำ นางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาในคดีผลิตยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอม หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมกันบุกเข้าตรวจค้นยึดของกลาง ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และสารต่างๆที่ใช้ผลิตยาลดความอ้วนและอุปกรณ์การผลิตยาจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งให้การซัดทอด โดยอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สคบ.ส่วนกลาง เป็นผู้สั่งสารและวัตถุดิบต่างๆในการผลิตยามาให้ และสั่งให้ผลิตแล้วส่งขายทางออนไลน์ พร้อมทั้งได้จ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเดือนละ20,000 บาท เพื่อแลกกับการช่วยให้ลูกสาว ซึ่งอดีตเคยเป็นเภสัชกร ได้ใบอนุญาตหลังจากถูกเพิกถอนไปนานแล้ว




นายปฐวี เยาวลักษณ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า จากการสอบพบว่าเป็นการเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อน ซึ่งตัวผู้ต้องหาเองก็ยันยืนว่าไม่ได้สั่งสารผลิตยา จำหน่ายยา และจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของสคบ. แต่คาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดในการจำชื่อของหน่วยงาน ซึ่งมีชื่อย่อที่คล้ายๆกัน ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องสืบสวนและขยายผลต่อไป

อย่างไรก็ตามสำหรับตัวผู้ต้องหานั้นหลังจากสอบปากคำเสร็จ พนักงานสอบสวนจะนำตัวส่งฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้มีการแจ้งข้อกล่าวหารวม 7 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต 5.ผลิตอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 6.จำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 7.ผลิตและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต