ซูเปอร์โพลเผย ปชช. 79.3% ระบุสิ่งที่หายาก คือ คนใกล้ชิดแวดล้อมนายกรัฐมนตรี เป็นคนดี มีคุณธรรม ส่วนสิ่งที่หาง่ายคือ นักการเมือง แย่งชามข้าว แย่งตำแหน่ง หาผลประโยชน์ส่วนตัว 91.6% เสนอ 3 ทางแก้รัฐบาลขาลง คะแนนนิยมตกต่ำ
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่องของหาง่าย ของหายาก ไทยแลนด์ 4.0 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,288 ตัวอย่าง ระหว่าง 1 –6 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเมื่อถามถึงประสบการณ์ที่เคยพบเห็น แรงงานต่างด้าว ทำกับข้าวขาย แย่งอาชีพคนไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.9 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ร้อยละ 23.1 ระบุ หายาก อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม เมื่อถามถึงประสบการณ์ที่เคยเห็น งานดีมีเงินดี มั่นคงสำหรับคนไทย พบว่า ส่วนน้อยหรือร้อยละ 16.0 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.0 ระบุ หายาก ที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อถามว่า คนไทยตกงาน โรงงานใช้เทคโนโลยีแทนแรงงาน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.2 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ส่วนน้อยหรือร้อยละ 18.8 ระบุ หายาก
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงประสบการณ์เคยพบเห็น รัฐมนตรีมีคุณธรรม จิตใจดี ทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศแท้จริง พบว่า ส่วนน้อยหรือร้อยละ 13.6 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.4 ระบุหายาก ในทางตรงกันข้าม เมื่อถามถึงประสบการณ์เคยพบเห็น เจ้าหน้าที่รัฐ รับสินบน วิ่งตำแหน่ง แสวงหาผลประโยชน์พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.6 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ส่วนน้อย หรือร้อยละ 11.4 ระบุ หายาก
ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อถามถึงประสบการณ์ของประชาชนที่เคยพบเห็น อาหารข้าวแกง ราคาถูก กินอิ่ม อร่อย พบว่า ส่วนน้อย หรือร้อยละ 30.0 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ร้อยละ 70.0 ระบุ หายาก ยิ่งไปกว่านั้น ที่น่าเป็นห่วง คือ เมื่อถามถึงประสบการณ์ของประชาชนในเรื่อง ทำมาหากินขัดสน กฎระเบียบของรัฐเป็นอุปสรรคทำมาหากินของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.9 ระบุหาง่าย ในขณะที่ส่วนน้อย หรือร้อยละ 10.1 ระบุ หายาก
สุดท้าย ด้านการเมือง เมื่อถามถึงประสบการณ์ของประชาชนที่เคยพบเห็น คนใกล้ชิดแวดล้อมนายกรัฐมนตรี เป็นคนดี มีคุณธรรม พบว่า ส่วนน้อยหรือร้อยละ 20.7 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.3 ระบุ หายาก ในทางตรงกันข้าม นักการเมือง แย่งชามข้าว แย่งตำแหน่ง หาผลประโยชน์ส่วนตัว พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.6 หาง่าย ในขณะที่ ส่วนน้อย เพียงร้อยละ 8.4 ระบุ หายาก
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า จากข้อมูลครั้งนี้เสนอทางออก 3 ประการช่วง “ขาลง” คะแนนนิยมตกต่ำให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ 1.รวบรวมทรัพยากรที่กระจัดกระจายอยู่มาไว้ในการบริหารจัดการของรัฐบาล 2.ปรับแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อความมั่งคั่ง มั่งคง และยั่งยืนของประเทศชาติและประชาชน และ 3.กระจายทรัพยากรคืนกลับไปถึงมือประชาชนทั้งประเทศโดยเร็ว เพราะกำลังเป็นช่วงเวลา “ขาลง” คะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำ โดยทำให้ของหายากเช่น งานดีมีเงินดีมั่นคงสำหรับคนไทย รัฐมนตรีมีคุณธรรม ทำเพื่อประโยชน์สุขให้ประชาชนทั้งประเทศ กลายเป็นของหาง่าย
“ความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ข้อมูลล่าสุดที่ค้นพบประชาชนประมาณร้อยละ 10 ว่างงาน ไม่ใช่ตัวเลขร้อยละ 1 ที่ว่างงาน และประชาชนที่ถูกศึกษาร้อยละ 35 – 40 ที่ระบุงานที่ทำไม่มีความมั่นคง ผลที่ตามมาคือ ฐานสนับสนุนรัฐบาลจึงลดต่ำลง ดังนั้น อย่าไปโทษสื่อมวลชนว่าเสนอข่าวด้านลบ เพราะความเป็นจริงของความเดือดร้อนยากลำบากอยู่ที่ประชาชนจริง ๆ จึงเสนอให้ ผู้มีอำนาจได้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ค้นพบนี้ปรับปรุงยุทธศาสตร์ นโยบาย แผน ชุดโครงการและโครงการทั้งระดับพื้นที่ (Area Base) และระดับประเทศ (National Base) เพื่อดึงฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อรัฐบาลกลับคืนมา” ผศ.ดร.นพดล กล่าว