ตำรวจเร่งล่าคนร้ายใจอำมหิตยิงช้างป่าตายที่นราธิวาส ก่อนตัดงา 2 ข้างหลบหนี
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายณรงค์พล หมึกทอง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี และนายสมศักดิ์ นวลย้อย เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ร่วมเดินทางมายังป่ารกทึบข้างสวนยางพาราบ้านลาไม หมู่ที่ 5 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส หลังได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านลาไมพบช้างป่า 1 ตัว โดยที่บริเวณหัวด้านซ้าย และด้านขวามีร่องรอยถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาด จำนวน 2 นัด และงาทั้ง 2 ข้างถูกตัดออก
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายณรงค์พล จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาทำการตรวจสอบ โดยพบว่า ช้างตัวดังกล่าวเป็นเพศผู้หรือช้างพลาย อายุประมาณ 20 ปี น้ำหนักประมาณ 36 ตัน และมีหัวมีกระสุนปืนฝังในที่บริเวณหัวทั้ง 2 จุด เจ้าหน้าที่จึงได้ผ่าหัวกระสุนนำออกมาพบว่า เป็นกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ต้องนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งช้างได้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 15 ชม. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ผ่าไมโครชิปที่ฝังไว้บริเวณหน้าผาก พบว่า ช้างตัวดังกล่าวเคยอาศัยอยู่บนเทือกเขาหลังหมู่บ้านไอร์ซาเมาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และถูกเจ้าหน้าที่ผลักดันไปอาศัยอยู่ในป่าพื้นที่ ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน เมื่อเดือน ธ.ค. 2561
หลังจากนั้นอีก 6 เดือน ช้างเชือกดังกล่าวได้เดินกลับมาหากินในบริเวณที่เก่าและเป็นตัวเดียวกันที่เคยตกและใจทำร้ายชาวบ้าน และในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานของคนร้าย ซึ่งคาดว่าเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงช้างป่าล้ม คือ ถุงมือผ้า 1 ข้างและกระสอบปุ๋ย ที่คาดว่าคนร้ายได้เตรียมมายิงช้างแล้วตัดงาช้างทั้ง 2 ข้างหลบหนี
ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรซากช้างแล้วเสร็จ ได้ประสานขอสนับสนุนรถแบ็กโฮของเอกชนในพื้นที่มาทำการขุดหลุมฝังซากช้างที่เสียชีวิต ห่างจากซากช้างประมาณ 4 เมตร ก่อนที่จะใช้ดินฝังกลบเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปูนขาวโรยโดยรอบเพื่อกันเชื้อโรคแพร่ระบาด ต่อมานายสมศักดิ์ นวลย้อย เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระแงะ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ก่อนที่จะรวบรวมหลักฐานมาแจ้งความอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป