จบดีไม่ต้องสาดโคลน! "มะปราง" จบรัก5ปี "อัทธ์" (คลิป)

2019-07-05 16:50:32

จบดีไม่ต้องสาดโคลน!  "มะปราง" จบรัก5ปี "อัทธ์" (คลิป)

Advertisement

ไปกันไม่รอดกันอีกหนึ่งคู่ สำหรับคู่ของสาว "มะปราง – วิรากานต์" และนักร้องหนุ่ม  "อัทธ์ – อังค์กูณฑ์" หรือ "อัทธ์ Yes’sir Days" ที่งานนี้สาวมะปรางออกมาเผยว่าต้องจบความสัมพันธ์ลงกันด้วยดีและความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย โดยสาว "มะปราง" ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า






ถามถึงเรื่องที่เลิกรากับพี่อัทธ์?
อย่างที่พี่อัทธ์บอกไปค่ะเราเลิกกันแล้วค่ะ





สาเหตุมาจากอะไร?
มาจากสิ่งที่เราสองคนคุยกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วนะ มันเป็นเรื่องที่เราสองคน ที่เรามีข้อตกลงกันไว้อะไรประมาณนี้ค่ะ เราพยายามมองข้ามปัญหาไปเรื่อยๆ อุ๊ย...อยู่ด้วยกันมันดี อยู่ด้วยกันมันมีความสุข แล้วก็บอกว่าปัญหาพวกนั้นมันไม่มีอะไรออกมั้ง แต่พอวันนึงที่เรารู้สึกที่จะอยากข้ามสเต็ป แต่เรากลับข้ามไปไม่ได้



แสดงว่าปัญหามันหนัก?


ไม่หนัก แต่มันไปต่อไม่ได้



คือเป็นปัญหาสะสม?
ใช่





ใครเป็นฝ่ายตัดสินใจถอยก่อนหรือใครทำผิดข้อตกลง?
ไม่มีทำผิดข้อตกลงค่ะ แต่มันแค่มันไม่ไปถึงจุดที่จะข้ามสเต็ปต่อไปได้ ไม่มีฝ่ายไหนตัดสินใจก่อน แต่คุยกันแล้วว่าถ้าเกิดมันเป็นแบบนี้ต่อไปยังไงก็ข้ามสเต็ปไม่ได้



สเต็ปที่ว่านั้นก็คืออะไร?


แต่งงาน



แสดงว่าเรามองอนาคตกับเขา แต่เขาไม่ได้มองอนาคตกับเรา?
เขามองอนาคตร่วมกันกับเราแน่นอนค่ะ พี่อัทธ์เป็นคนดีและน่ารักเนอะ ไม่งั้นไม่คบมา 5 ปีขนาดนี้หรอก คือเราโตแล้ว ไม่ใช่แค่คบกันแบบว่าเฮ้ย ไปเที่ยวกันเหอะ เราก็เลยรู้สึกว่าจะไม่ถ่วงเวลากัน


รักหวานมาตลอด มาสะดุดที่อะไร?
ปัญหามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันข้ามไปไม่ได้





หลายคนบอกว่าครอบครัวเราไม่ปลื้มฝ่ายชาย?
ถ้าไม่ปลื้มพี่อัทธ์ไม่สามารถมาเข้าออกบ้านปรางได้ถึง 5 ปีนะ ที่บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ ทุกคนก็เอ็นดูเขา ลองถามเขาดูก็ได้



จุดระหองระแหงที่ทำให้ไปต่อไม่ได้?
ไม่มีจุดระหองระแหงค่ะ แต่ว่าแค่เราพยายามมองข้ามปัญหาตลอดเวลา



เราได้พยายามแก้ปัญหากันแล้วใช่ไหม?
พยายามแล้ว



คือเป็นตั้งแต่ปีแรก?
เราพยายามบอกว่าไม่เป็นไรไง



ทนกันมาเรื่อยๆ?
เรียกว่ามองข้ามกันมาเรื่อยๆมากกว่า



ตกลงกันยังไง?
ตกลงกันต่อหน้าค่ะ เราโตๆกันแล้ว เราอายุจะ30แล้ว พี่อัทธ์เขาน่ารักเขาปลอบใจหนูด้วยซ้ำ



จุดแตกหักที่เราคิดว่าจะไม่ไปต่อแล้ว?
เราโตขึ้นค่ะ จุดที่ทำให้หนูรีบตัดสินใจนิดนึง คือ คุณแม่เป็นโรคกระดูกพรุน หนูรู้สึกว่าหนูต้องรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อต้องดูแลแม่ให้ดีที่สุด เราก็รู้สึกว่าเราเอาแต่ดูแลตัวเอง เอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้งหรือเปล่า จนไม่มีเวลาดูแลครอบครัวเราก็เลยต้องรีบตัดสินใจอะไรบางอย่าง



ใครเฮิร์ตมากกว่ากัน?
ณ วันนั้นหนูต้องปรบมือให้พี่อัทธ์เลย ถ้าไม่มีพี่อัทธ์คงผ่านวันนั้นมาไม่ได้ เขาไม่ร้องเลยและคอยตบไหล่เราด้วยซ้ำอ่ะ แต่ว่าเราล้มก็ต้องรีบลุกเนอะ ก็ฝากบอกพี่อัทธ์ด้วยว่าเราต้องรีบลุก



ทำไมการที่เราจะก้าวไปข้างหน้า แล้วถึงไม่มีเขา?
มันมีเหตุผลค่ะ


เป็นการตัดสินใจที่ยาก?
มันเป็นการตัดสินใจที่ยากแน่นอน ไม่งั้นไม่มาถึง 5 ปี


คือทุกๆหนึ่งปีเราคิดเรื่องนี้ตลอด?
ใช่



เสียดายเวลาไหมคบมาตั้ง5ปี?

5ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเสียเวลากับเขาเลย หนูมีความสุขมากที่อยู่กับเขา เราก็ห่วงพี่อัทธ์ อยากให้เขามีชีวิตต่อไปที่ดีงาม คิดบวกต่อไปเรื่อยๆ เพราะสิ่งที่เขามีอยู่มันจะทำให้เขาได้เจอสิ่งที่ดีมากอยู่แล้ว



ทำไมเราไม่เลือกที่จะดูแลเขา?
หนูต้องดูแลแม่หนู



เหมือนเราก็เสียดาย?
เขาเป็นคนดีค่ะ ใครได้เขาไปก็โชคดีค่ะ



โอกาสที่จะกลับมามีไหม?
ณ ตอนนี้หนูว่ายัง หนูก็เดินต่อ หนูว่าความรักมันเปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นได้ ความรักที่หนูรักเขายังเท่าเดิม แต่มันไม่ใช่แบบเดิมอีกต่อไปแล้ว หนูเคยบอกเขาว่าไม่ว่าเขาจะเดือดร้อนแค่ไหน หนูก็พร้อมจะดูแลเขา



ถ้าเขามีคนอื่น?
ดีใจด้วยค่ะ



และตัวเราล่ะ ต่อไปมันจะทำให้เรามีกำแพงมากขึ้นไหม?
โตขึ้น ด้วยความที่หนูเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆ หนูให้ครอบครัวยืนหนึ่ง แล้วก็คนที่จะมาเป็นคนต่อไปก็ขอให้เขารักครอบครัวหนูมาก



พูดแบบนี้หลายคนจะเข้าใจว่าท้ายที่สุดก็เกี่ยวกับครอบครัว?

ไม่ค่ะ พอยต์ที่ตัดสินใจแบบนี้เพราะเราอยากดูแลตัวเองให้ดี เพื่อที่จะดูแลครอบครัวให้ดีค่ะ เพราะที่ผ่านมาเรากับพี่อัทธ์ดูแลกันและกันสองคน



ถ้าวันหนึ่งเขาอยากที่จะมาดูแลครอบครัวเรา?

เขาก็มีความตั้งใจแบบนั้นนะคะ



วันนี้เราวางเขาไว้ในสถานะไหน?
พี่อัทธ์ค่ะ ให้เวลาผ่านไปให้เรามีสติกันมากขึ้นก่อนหนูเชื่อว่าเราจะสามารถเป็นที่ปรึกษากันได้ทุกเรื่องค่ะ ตอนนี้เรายังไม่ได้คุยกันเลย แต่เราเจอกันได้ ทำงานกันได้ พวกเราโอเคค่ะ