เปิดเรื่องดราม่า “เอ็ม บุษราคัม” ยากจนข้นแค้น ต้องเกิดในแผนกผู้ป่วยอนาถา !!

2019-07-04 18:25:31

เปิดเรื่องดราม่า “เอ็ม บุษราคัม” ยากจนข้นแค้น ต้องเกิดในแผนกผู้ป่วยอนาถา !!

Advertisement

ชีวิตไม่ได้เรียบหรู “เอ็ม บุษราคัม” ลูกสาว “หม่ำ จ๊กมก” นั่งเปิดใจ ลำบากตั้งแต่เกิด ต้องคลอดในแผนกผู้ป่วยอนาถา แจงดราม่าบริจาคเสื้อผ้าลูกคนแรก ไม่เก็บไว้ให้คนที่ 2 


ใกล้จะได้ยลโฉมลูกคนที่ 2 แล้ว สำหรับคู่สามีภรรยา “เอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา” และ “กอล์ฟ กรวัฒน์” ที่ตอนนี้อายุครรภ์ลูกคนที่ 2 ก็ 7 เดือนย่างเข้า 8 เดือนแล้ว ซึ่งสาวเอ็มก็ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่โดนกระแสดราม่าอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องการเลี้ยงลูกคนแรก “น้องนาฬิกา” ล่าสุด เจ้าตัวก็ได้ควงสามีพร้อมลูกสาว มานั่งเปิดใจถึงประเด็นดราม่าต่างๆ รวมไปถึงเส้นทางชีวิตก่อนที่จะฝ่าฟันจนมีวันนี้ ผ่านทางรายการคุย “คุยแซ่บ SHOW” ถึงเรื่องราวต่างๆ ว่า…






ตอนนี้ท้องที่ 2 กี่เดือนแล้ว ?

เอ็ม : 7 เดือนค่ะ

มันจะมีบางคนบอกว่ามันเร็วไปไหม ลูกยังไม่ถึงขวบเลย ท้องอีกแล้ว ? 

เอ็ม : จริงๆ คุณแม่บางคนที่ผ่าคลอดแผลมันยังไม่สมานเต็มที่ แต่สำหรับเอ็มพอเหมาะพอควรแล้ว โอเคเลย

คนหลังนี่เป็น ? 

กอล์ฟ : ผู้หญิงครับ ถามว่าอยากได้ลูกชายไหม คือจริงๆ เราคิดไว้ว่าขอ 2 ก่อนจะเพศไหนก็ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวนี้ค่าใช้จ่ายเยอะ ขอ 2 ก่อนน่าจะกำลังดี




วินาทีแรกที่รู้ว่าได้ลูกคนที่ 2เราทำอะไรอยู่ ? 

เอ็ม : ตอนนั้นเราไปเที่ยวฮ่องกงกัน ไปกับตาหม่ำ ไปใช้ชีวิตสนุกมาก อุ้มนาฬิกาทั้งวัน เป้อุ้มกดท้องทุกวัน แต่ก่อนที่จะไปคุยกับกอล์ฟว่าอยากซื้อที่ตรวจมาตรวจจังเลย คือใจร้อน อยากรู้จะได้ทำตัวถูก สรุปก็ไม่ได้ตรวจ

จนกระทั่งไปฮ่องกงแล้วมีเลือดออก ก็คุยกับแฟนว่าประจำเดือนมาแล้วแน่ๆ สรุปก็ไม่ได้ซื้อที่ตรวจมาปล่อยไว้อย่างนั้น ตลอดทริปอยู่กับนาฬิกาตลอด นาฬิกาติดมาก ก็เลยคุยกันกับกอล์ฟว่าหรือว่าน้องมาแล้ว แล้วนาฬิกาอิจฉาน้องหรือเปล่า

กลับมาเมืองไทยนัดเพื่อนเราจะไปทำโบท็อกซ์ชุดใหญ่เตรียมตัวมีคนที่สองฉันจะหน้าเรียว พอถึงเมืองไทยวันแรกตรวจเลย ขึ้นขีดเดียว แต่พอจะก้มหยิบไปทิ้งมีอีกขีดจางๆ ก็เลยส่งไลน์ไปหาเขาว่าสงสัยอดทำโบท็อกซ์แล้วแน่ๆ เขาก็ถามว่าทำไม อันนั้นแปลว่าอะไร เราก็เลยบอกว่าน่าจะท้องแล้วแหละ 






ถ้าวันแรกมันขึ้นมา 2 ขีดแล้ว ทำไมต้องทำซ้ำกัน 3 วัน ?

เอ็ม : กลัวไม่ชัวร์ ก็เลยไปซื้อมาอีก 3 ยี่ห้อ แล้วก็ตรวจปัสสาวะแรกของทุกวัน มันเข้มขึ้นเรื่อยๆ เราก็เลยบอกว่าชัวร์แล้วแหละ

เห็นว่าตอนบอกคุณตาไม่ได้บอกตรงๆ ?

เอ็ม : ไม่ได้บอกตรงๆ กะว่าเจอหน้าแล้วจะบอก คือเขาฝากแลกเงินฮ่องกงก็เลยจะเอาเงินไทยไปให้เขา เราก็เลยพูดกับเขาว่าเงินนี้ไม่ต้องเอาหรอกเก็บไว้ให้หลานคนที่ 2 ทำคลอดแล้วกัน เขาบอกว่าเดี๋ยวมีแล้วค่อยมาเอา เอ็มก็บอกว่าก็มีแล้ว เขาก็ถามว่าไวขนาดนั้นเลยเหรอ แม่หันมา พูดเป็นเล่น

สรุปไม่เชื่อ คุยสักพักหนึ่งถึงจะเชื่อ เขาดีใจแต่เงินก็ไม่ได้นะ ช่วงนั้นตาเดือดร้อนก็เลยให้ตาไปก่อน แต่คุณยายอยากให้มีคนที่ 3





ท้อง 1 กับท้อง 2 ต่างกันไหม ?

เอ็ม : ต่างกันมาก มากจนคิดว่าในท้องคือผู้ชาย ทุกอย่างตรงกันข้ามกับตอนที่ท้องนาฬิกา

คิดชื่อไว้ยัง ? 

เอ็ม : คิดไว้แล้ว คิดไว้ตั้งแต่ยังไม่มีนาฬิกา คิดไว้ 4 ชื่อ เพราะอยากมีลูก 4 คน ถามว่าเกี่ยวกับเวลาอีกไหม คือทุกอย่างเกี่ยวโยงกันหมดเลย

กอล์ฟ : แต่มีคุณตาตั้งให้นะครับ คนแรกชื่อ นาฬิกา คนที่สองชื่อ แขวน จะได้เป็นนาฬิกาแขวน หรือไม่คนที่สอง ข้อมือ ก็ได้เป็นนาฬิกาข้อมือ

เอ็ม : ตั้งโต๊ะก็ได้ลูก คือเอ็มคิดว่าถ้าเอ็มตั้งขึ้นมาจริงๆ ตาจะรับได้ไหม






คุณแม่ท้องแบบนี้มีกังวลเรื่องสามีบ้างไหม เพราะเวลาคุณแม่ท้องสามีจะเนื้อหอม ? 

เอ็ม : ก็มีห่วงและหวง แต่ว่าไม่ได้ไปกักอิสรภาพเขาขนาดนั้น แต่ไม่ค่อยอยากให้กลับดึกมาก เพราะคนที่นอนกับนาฬิกาคือเขา

กำลังจะมีลูกคนที่ 2 แต่ทั้ง 2 คน เอาของน้องนาฬิกาไปบริจาค ก็เลยมีดราม่าทำไมไม่เก็บไว้ ? 

เอ็ม : เราเห็นว่าของที่เรามีมันเกินความจำเป็น ส่วนที่จำเป็นเราเก็บไว้แล้ว แล้วส่วนที่ให้คนอื่นได้ทำไมเราต้องเก็บไว้ เก็บไว้มันมีเสีย มีบูด เสื่อมสภาพไป ซึ่งเราเอาไปให้คนที่อยากได้ดีกว่า




แล้วเอ็มเอาไปบริจาคที่ไหน ? 

เอ็ม : ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปบริจาคที่ไหนก็เลยโพสต์ในอินสตาแกรม เพื่อต้องการไอเดีย เลยได้มา 4 ที่ คือ ที่โรงพยาบาลอุ้มผาง เป็นมูลนิธิของ จ. ตาก อีกที่หนึ่งเป็นเรือนจำที่เชียงใหม่ อีกที่หนึ่งก็เป็นคล้ายๆ เรือนจำ ถ้าจำไม่ผิดอยู่นนทบุรี แล้วที่สุดท้ายคือภาคใต้






เห็นครอบครัวดูครบและพร้อมขนาดนี้ จริงเหรอตอนเอ็มเกิด เกิดในแผนกผู้ป่วยอนาถา ? 

เอ็ม : ใช่ค่ะ คือสภาพการเงินตอนนั้นของคุณพ่อคือแย่มาก ฐานะไม่โอเคเลย คือคุณพ่อไม่มีเงิน เพิ่งเข้ากรุงเทพฯ ไม่ค่อยรู้จักใคร ตอนท้องบอกได้เลยว่าไม่พร้อมที่จะมีลูก โชคดีมากที่เขาไม่ได้เอาเอ็มออกหรือว่าไม่เลี้ยง ก็เก็บเอ็มไว้แล้วก็ไปคลอดที่โรงพยาบาลศิริราช แผนกผู้ป่วยอนาถา

ตอนนั้นรู้สึกคุณพ่อบอกว่าเคสละ 500 บาท ในการทำคลอด แต่ก็ไม่มีตังค์ แต่เอ็มโชคดีเอ็มเกิดสิ้นเดือนพอดี 30 พ.ค. แล้ววันที่ 1 พ่อซื้อลอตเตอรี่เอาไว้แล้วถูกได้หลายบาทมาก ก็เลยมีตังค์มาจ่ายค่าทำคลอด แล้วก็ซื้อทองมาให้ใส่เต็มตัวเลย

คุณพ่อบอกว่าออกมาให้โชคเลย แล้วก็ไม่มีผ้าห่อตัว ทุกอย่างไม่มี ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกเลย ต้องไปรอให้คนอื่นเอาของมาให้ พอกลับไปอยู่ที่แฟลตก็ต้องรอให้คนที่มีลูกไล่เลี่ยกับคุณพ่อบริจาคให้




ตอนที่คุณแม่ท้องเอ็มการเงินไม่พร้อม คุณพ่อคุณแม่เคยเล่าให้ฟังไหมว่ามีการพูดคุยกันไหมว่าจะเอาออกดีหรือเก็บไว้ดี ?

เอ็ม : เคยมีครั้งหนึ่ง คุณแม่เขาอยากจะปล่อยเอาออกเลย เหมือนเขาทะเลาะกับคุณพ่อแล้วสไลด์ลงมาจากบันไดประชดคุณพ่อ แต่ด้วยความเป็นเด็กมีบุญ อยากมาเกิดมากก็ยังอยู่ คุณแม่ก็เลยคิดว่าคงอยากมาอยู่ด้วยจริงๆ แหละ พอออกมาปุ๊บเลี้ยงดีมากเท่าที่เขาจะเลี้ยงได้

แล้วพอเรามีลูกเอง ทำให้เรารักพ่อแม่มากขึ้นไหม ? 

เอ็ม : มาก มีคนพูดเยอะว่าไม่มีลูกไม่เข้าใจหรอก เดี๋ยวมีลูกจะเข้าใจเอง

กอล์ฟ : เข้าใจว่าพ่อแม่รักลูกแค่ไหน 







ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @emmeemm