ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์คดี อดีตหลวงปู่เณรคำ และมีคำสั่งให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุก 20 ปี และมีคำสั่งให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ขอถอน ถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายวิรพล สุขผล หรือ "อดีตหลวงปู่เณรคำ" จากเรือนจำพิเษกกรุงเทพมหานคร มายังศาลอาญา เพื่อฟังคำสั่งและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีดำอ .2341/60 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฟฉัตติโก หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 17 ก.พ.52 - 27 มิ.ย.57 จำเลยได้อาศัยความเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาและความศรัทธาเลื่อมใสของประชาชนโดยการหลอกลวง ปกปิดข้อเท็จจริงต่อประชาชนอ้างว่า จำเลยเป็นประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จึงเชิญชวนและโพสต์ข้อความในเว็บไซต์ให้ ประชาชน นำเงิน และสิ่งของมีค่ามาร่วมทำบุญก่อสร้างพระแก้วมรกต จำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ศาสนสถานต่างๆ จนมีผู้หลงเชื่อ 29 มอบเงินสด โอนเงิน ทรัพย์สินฯเป็นเงินทั้งสิ้น 28,649,553 บาทซึ่งล้วนเป็นเท็จ เหตุเกิดที่ วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีษะเกษ และที่อื่นๆเกี่ยวพันกัน ที่ห้องพิจารณา 701 ในเวลา 10.00 น. คดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 ส.ค.61 จำคุกจำเลยรวม 114 ปี แต่คงจำคุกจำเลยไว้ 20 ปี ตามกฎหมาย แต่จำเลยได้มีการยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ไปเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่จำเลยยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ ซึ่งศาลต้องอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก่อนว่าจะอนุญาตให้จำเลยถอนอุทธรณ์หรือไม่ หากศาลไม่อนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ก็จะอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เลย ทั้งนี้เมื่อถึงเวลาศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์คดีในวันนี้ และมีคำสั่งให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุก 20 ปี และมีคำสั่งให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ขอถอน จึงเท่ากับว่าคดีถึงที่สุดแล้ว