คุมตัว "โจรสาวเซเว่น" ทำแผน เผยตั้งนาฬิกาปลุกก่อเหตุ

2019-07-03 13:35:22

 คุมตัว "โจรสาวเซเว่น" ทำแผน  เผยตั้งนาฬิกาปลุกก่อเหตุ

Advertisement

คุมตัวโจรสาวทำแผน ประกอบคำรับสารภาพจี้ชิงเงินเซเว่น เผยแนวทางการสืบสวน ตั้งนาฬิกาปลุก แอบหนีสามีมาก่อเหตุลำพังคนเดียว

เวลา 11.30 น.วันที่ 3 ก.ค. ตำรวจ สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ควบคุมจัว ผู้ต้องหา คือ น.ส.รจนา ช่องกลาง อายุ 25 ปี คนร้ายก่อเหตุใช้มีดจี้พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาชุมชนบ้านโพธิ์ ชิงเงินสดในตู้เซฟ 2.3 ล้านบาท ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ใช้เวลาทำแผนประทุษกรรมอย่างละเอียดนาน 10 นาที จึงแล้วเสร็จ ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

ขณะเดียวกัน ตามแนวทางการสืบสวนคดีนี้ ตำรวจชุดสืบสวนไล่ดูกล้องวงจรปิดพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า มิโอ สีฟ้าขาว ทะเบียน จกว 29 นครราชสีมา ที่ น.ส.รจนาใช้ขับขี่มาก่อเหตุ ก่อนลงมือได้นอนครุ่นคิดอยู่นาน 3 วัน 3 คืน เนื่องจากที่บ้านติดหนี้สินจากการเล่นแชร์ลูกโซ่เป็นเงิน 170,000 บาท ซึ่งหยิบยืมจากเพื่อนบ้าน และต้องหาเงินมาใช้หนี้โดยด่วน จึงตัดสินใจจี้ร้านเซเว่น สาขาเคยทำงานอยู่ที่นั่น มีความคุ้นเคยสถานที่ รู้จุดที่วางตู้เซฟ ขั้นตอนวิธีการเปิดตู้เซฟ และรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี




ในคืนก่อเหตุ น.ส.รจนา นอนอยู่กับสามีและลูกชายวัย 1 ขวบเศษ ตั้งนาฬิกาปลุกตอนตี 1 จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านลำพัง โดยที่สามีหลับไม่รู้ตัว หยิบหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน ซึ่งปกติเป็นหมวกของสามี กระเป๋าสะพายของลูกชาย และอาวุธมีดของพ่อ เดินทางมาระยะทาง 15 กม. มาก่อเหตุ ใช้เวลาลงมือประมาณ 5 นาที โดยใช้มีดจี้ข่มขู่พนักงานในร้านพากันหวาดกลัว และเปิดทางให้ลงมือหยิบกุญแจไขเปิดตู้เซฟและกวาดเอาเงินสดใส่กระเป๋าสะพายทั้งหมด 2.3 ล้านบาท จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้าน

พอรุ่งเช้าแบ่งเงิน 170,000 บาทไปใช้หนี้เพื่อนบ้าน และบางส่วนนำไปฝากตู้เงินธนาคาร ส่วนที่เหลือนำไปซ่อนในถังส้วม และทำตัวตามปกติ โดยที่ทุกคนในบ้านไม่รู้เรื่องใด ๆ เลย กระทั่งถูกตำรวจแกะรอยตามมาควบคุมตัว เค้นสอบนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงยอมรับสารภาพ



ขณะสอบปากคำตอนแรก น.ส.รจนา ให้การปฏิเสธ และไม่มีพิรุธใด ๆ เลย จนชุดสืบสวนเกือบจะปล่อยตัวกลับบ้าน กระทั่ง น.ส.รจนา รับว่าคนในคลิปภาพวงจรปิด มีรูปพรรณคล้ายตนเอง จึงจับพิรุธได้ ประกอบกับคำบอกเล่า ตัวเลขยอดหนี้สิน และเงินที่ต้องการใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่ง น.ส.รจนา บอกว่า อยากจะมีเงินสัก 5 แสน จึงเค้นสอบต่อเนื่องนานกว่า 4 ชั่วโมง จึงยอมรับสารภาพในที่สุด

โดย น.ส.รจนา รับว่า ไม่คิดว่าในร้านจะมีเงินมากถึง 2.3 ล้านบาท คาดว่าน่าจะมีแค่ 5-6 แสนบาท แต่บังเอิญทางร้านเก็บเงินไว้ 2-3 วัน จึงมีเงินสะสมเป็นล้านและตัดสินใจกวาดเอาไปทั้งหมด ส่วนการสอบปากคำพนักงานในร้านที่อยู่ในเหตุการณ์ มีบางคนเคยทำงานร่วมกับ น.ส.รจนา แต่ขณะเกิดเหตุจำ น.ส.รจนา ไม่ได้ เพราะปิดบังใบหน้ามิดชิด อย่างไรก็ตาม แนวทางการสืบสวนยังไม่พบว่า มีผู้อื่นร่วมมือ เป็นการก่อเหตุลำพังคนเดียว เหตุจูงใจ คือ ต้องการเงินไปใช้หนี้ และใช้จ่ายเป็นค่านายหน้าเดินทางไปทำงานต่างประเทศ