ยังมีเรื่องแปลกลี้ลับชวนพิศวงอีกมากมายทั่วทุกมุมโลกที่รอคอยให้พวกเราทุกคนค้นเจอ อย่างเรื่องที่เราจะขอหยิบเอามีเล่าในวันนี้คือ เรื่องอกสั่นขวัญแขวนนี้เกิดขึ้นที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย หรือที่ใครๆ รู้จักในนาม "ญี่ปุ่น" นั่นเอง ในมุมลึกๆ ที่ไม่ค่อยจะน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ มีเรื่องเล่าเคล้ากับความตายแฝงอยู่ โดยเรื่องนี้มีอยู่ว่า ในใจกลางกรุงโตเกียว ย่านชินจูกุ มีอพาร์ตเมนต์สำหรับการตายแบบโดดเดี่ยว ใครที่มาอยู่เหมือนรู้ว่าต้องจากโลกนี้ไปในเวลาไม่นาน จึงมาพำนักที่นี่สำหรับวาระสุดท้ายของชีวิต และมีผู้มาขอใช้บริการเช่าต่อกันคิวยาวเฟื้อย 
โดยเรื่องนี้ถูกเผยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "ธนากร ใจสุขสกุลดี" ได้โพสต์เรื่องราวชวนขนหัวลุกจากประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวของของอพาร์ตเมนต์ที่มีอายุถึง 50 ปี เก่าแก่ตามสภาพ มีทั้งหมด 15 ห้อง ห้องน้ำรวม ค่าเช่าเดือนละ 30,000-50,000 เยน หรือประมาณ 8,500-14,000 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากในย่านนั้น ผู้อาศัยแทบทุกคนเป็นผู้ที่ขอรับเงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพจากรัฐบาล โดยทุก ๆ ปี จะมีคนตายลำพังในห้องเป็นเรื่องธรรมดา พอมีคนตายก็จะเรียกบริษัทมาทำความสะอาด หลังจากนั้นก็เปิดให้คนมาเช่าใหม่ หมุนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
นายฟูจิตะ ยูกิโนริ อายุ 41 ปี ผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ มีหน้าที่ต้องเดินตรวจเช็กมิเตอร์ไฟฟ้าทีละตัวเป็นประจำทุกเดือน เขาเผยว่า หากห้องไหนมิเตอร์ไฟฟ้านิ่งสนิทประมาณ 1 - 2 วัน ให้สันนิษฐานได้เลยว่าผู้เช่าห้องนั้นเสียชีวิตไปแล้ว หรือหากผ่านไปหลายวันไม่ทราบ ก็จะทราบตอนที่มีกลิ่นเหม็นโชยออกมา เป็นที่แน่ชัดว่ามีคนตายอย่างแน่นอน จึงดำเนินการแจ้งตำรวจมาจัดการ
"ยูกิโนริ" เล่าเพิ่มเติมอีกว่า "ยิ่งในช่วงฤดูร้อน ศพจะเน่าไวกว่าปกติ เพียงเดือนเดียวก็เน่าเฟะอืดเต็มที่ นอกจากนั้นยังมีแมลงวัน หนอนเต็มไปหมด ของเสีย อาทิ น้ำเหลือง เลือด ไขมันของเหลวในร่างกาย ไหลนองทั่วพื้น สยดสยองเป็นที่สุด และที่น่าเห็นใจที่สุดคงจะเป็นพนักงานทำความสะอาด ที่ต้องมาเก็บกวาดห้องให้เรียบร้อย เพื่อรอรับผู้เช่ารายใหม่ ที่จะมาเป็นรายต่อไป"
ตามรายงานจากสถาบันเพื่อการตรวจสอบและวิจัย Nissei ระบุว่า ประเทศญี่ปุ่นมีคนเสียชีวิตแบบโดดเดี่ยวมากถึงปีละ 30,000 คน แต่ที่น่าตกใจคือข้อมูลจากทางพนักงานบริษัททำสะอาดระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านั้นถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
ทั้งนี้ คนญี่ปุ่นเต็มใจที่จะจบชีวิตลงในลักษณะนี้เองตามเหตุผลของแต่ละคน หรือที่เรียกว่า Self-Neglect (การทอดทิ้งตัวเอง)
ภาพบางส่วนจาก เฟซบุ๊ก ธนากร ใจสุขสกุลดี