“แก้มบุ๋ม” สุดปลื้ม “พีท” เหมือนให้ชีวิตใหม่ ฟุ้ง ! แค่คำขอบคุณยังน้อยไป

2019-07-01 13:20:20

“แก้มบุ๋ม” สุดปลื้ม “พีท” เหมือนให้ชีวิตใหม่ ฟุ้ง ! แค่คำขอบคุณยังน้อยไป

Advertisement

ขอบคุณที่ให้ชีวิตใหม่ “แก้มบุ๋ม” ซึ้งใจแฟนหนุ่ม “พีท กันตพร” คอยดูแลไม่ห่าง ขอบคุณที่ให้ชีวิตใหม่

หลังจากที่ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลแบบกะทันหัน สำหรับนักแสดงสาวสวย “แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย” เนื่องจากเกิดภาวะถุงชีตส์แตกและมีเลือดออกในช่องท้องจำนวนมาก จนต้องรีบผ่าตัดด่วน ล่าสุดเจ้าตัวก็หายดีและได้ออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือก็แค่แผลผ่าตัดเท่านั้น




แม้อาการยังจะไม่หายดี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่แก้มบุ๋มก็ยังสามารถเดินเหินเองได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยสะดวกมากนัก แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเธอเลย เพราะมีหวานใจหนุ่มอย่าง “พีท กันตพร หาญพาณิชย์” นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงทายาทธุรกิจโรงพยาบาลในเครือ BCH คอยทำหน้าที่ดูแลอยู่ไม่ห่าง

และล่าสุดหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน แก้มบุ๋มก็ได้โพสต์คลิปในขณะที่กำลังเดินขึ้นรถและลงรถเพื่อยืนยันอาการของเจ้าตัวให้แฟนๆ ได้ชมกัน ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมกับข้อความว่า…

“สภาพขึ้นลงรถสุดๆ ไปเลยแก” 






แม้จะเอ่ยปากบอกในคลิปว่าไม่เจ็บๆ แต่เธอนั้นกลับร้องโอ้ย… ทั้งคลิป แถมงานนี้ก็ยังแอบได้ได้ยินเสียงของแฟนหนุ่มหัวเราะขำด้วยความเอ็นดูอยู่ไม่ไกล พร้อมกันนี้ก่อนหน้าที่สาวแก้มบุ๋มจะได้โพสต์คลิปดังกล่าว เธอก็ได้โพสต์รูปคู่กับหวานใจหนุ่ม พร้อมกับแคปชั่นขอบคุณหนุ่มพีทด้วยว่า…

“คนสำคัญอีก 1 คนที่ต้องขอบคุณจากใจ ถ้าไม่มีพี่พีทหนูคงไม่อยู่แล้วจริงๆ ตั้งแต่เรียกรถพยาบาลจัดการเรื่องโรงพยาบาลหมอทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่วันที่เข้าโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ก็ยังดูแลหนูตลอด ถึงแม้งานของตัวเองก็หนักมากแล้ว ลืมตามีชีวิตใหม่ขึ้นมาก็เจอพ่อกับพี่พีทที่เดินตามข้างๆ เตียง (แม่ไปหาตาที่บ้านยาย,ขวัญจิรอในห้อง)






คำขอบคุณมันยังน้อยมากเกินไปด้วยซ้ำ กับการที่ให้ชีวิตใหม่หนูขนาดนี้ จะจำคำสอนของพี่พีท มีโอกาสกลับมามีชีวิตแล้วจะทำให้มันดีกว่าเดิม “หนูโชคดีกว่าคนอื่นที่ได้มีชีวิตต่อ” ขอโทษนะที่ก่อนหน้าหนูดื้อเอาแต่ใจไปบ้าง ต่อไปนี้จะไม่ดื้ออีกแล้ว รักกกกกกกกนะ (รูปเก่านะคะ)” 

เรียกได้ว่าเป็นการเห็นหน้าค่าตากันแบบเต็มเลยก็ว่าได้ เพราะที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ไม่เคยอัพรูปให้เห็นกันแบบต็มๆ เลย กำลังใจดีแบบนี้ก็ขอให้แก้มบุ๋มหายเร็วๆ ด้วยนะคะ…






ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @kambum