สหภาพยุโรปหรือ อียู เซ็นลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ (FTA)ครั้งสำคัญกับเวียดนาม เมื่อวันอาทิตย์ นับเป็นเอฟทีเอแรกของอียู กับประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ซึ่งจะเป็นการปูทางสำหรับการลดอัตราภาษี 99 % สำหรับสินค้าระหว่างกลุ่มความร่วมมือ 28 ประเทศในยุโรป กับประเทศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ข้อตกลงยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภายุโรป ซึ่งอาจจะไม่ง่ายดายนัก เนื่องจากสมาชิกรัฐสภายุโรปบางส่วน ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับสถิติการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม
การลงนามเอฟทีเอ ในกรุงฮานอย เมื่อวันอาทิตย์ โดย น.ส.เซซิเลีย มาล์มสตรอม กรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรป กับนายเจิ่น ตวน อานห์ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม มีขึ้นหลังการเจรจานาน 3 ปีครึ่ง ซึ่งสิ้นสุดได้ข้อสรุปเมื่อเดือน ธ.ค. 2558
ภายใต้ข้อตกลง อียูและเวียดนามจะลดภาษีสินค้านำข้าวของแต่ละฝ่ายลง 99 % แต่สินค้าบางชนิดจะปรับลดในระยะ 10 ปี และสินค้าอื่นๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์การเกษตร จะจำกัดโดยระบบโควตา
ปัจจุบันอียูเป็นตลาดส่งออกสินค้าขนาดใหญ่สุดอันดับ 2 ของเวียดนาม รองจากสหรัฐ โดยสินค้าส่งออกหลักได้แก่ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า รัฐบาลเวียดนามคาดหวังว่า ข้อตกลงจะทำให้เศรษฐกิจประเทศเติบโต ปีละ 2.18 – 3.25 % จนถึงปี 2566 และเติบโตปีละ 4.57 – 5.30 % ในระหว่างปี พ.ศ. 2567 จนถึง 2571.