เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว 20 ชีวิต ที่ถูกนำมากักขังไว้ในโกดังร้างใกล้ชายแดนไทยมาเลเซียพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา หลังชาวบ้านได้ยินเสียงเด็กร้องและแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ พบถูกขังอดข้าวอดน้ำมา 5 วันอาศัยน้ำที่ไหลมาทางหลังคาตอนฝนตกประทังชีวิต
วันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจเเห่งชาติและผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศพดส.ตร.) ได้รับเเจ้งจากพลเมืองดีว่า มีการนำเเรงงานต่างด้าวมาขังไว้ในโกดังร้างพื้นที่ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลาเนื่องจากที่ชาวบ้านได้ยินเสียงเด็กร้องมาจากข้างในโกดังผิดปกติมาหลายวัน
เมื่อไปถึงพบว่าประตูมีการล่ามด้วยโซ่เหล็กล็อคกุญแจหนาแน่นเพื่อป้องกันการหลบหนี จึงประสานผู้นำในหมู่บ้านรีบงัดประตูอย่างเร่งด่วน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องพบกับภาพที่หดหู่ใจและน่าสงสาร เนื่องจากมีกลุ่มคนต่างด้าวทั้งผู้ใหญ่และเด็กนั่งรวมกันอยู่ภายในโกดังร้างท่ามกลางความมืด เพราะข้างในไม่มีหน้าต่าง ไม่มีไฟฟ้าใช้ และทุกคนต่างดีใจที่เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ
จากนั้นเจ้าหน้าที่รีบนำแรงงานต่างด้าวจากโกดังรวมทั้งหมด 20 คน เป็นชาว9 คน หญิง 6 คน และเด็กอีก 5 คนในจำนวนนี้มีเด็กอายุต่ำสุดแค่ 1 ปี 3 เดือน จำนวน 1 คนยังนั่งอยู่ในตักของพ่อแม่ ส่วนที่เหลือเป็นเด็กอายุตั้งแต่ 6-14 ปี
จากการสอบสวนทราบว่าแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้เป็นชาวเมียนมาถูกนำมาขังไว้ในโกดังร้างแห่งนี้มา 5 วันและอยู่ในสภาพอดอยากไม่ได้กินข้าว อาศัยกินน้ำที่ไหลมาทางหลังคาตอนฝนตก ประทังชีวิต ทำให้เด็กๆ ทนไม่ไหวเพราะความหิวโหยจึงร้องให้ชาวบ้านได้ยินจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือเอาไว้ทัน และจากสภาพที่พบคาดว่าถูกนายหน้าพามากักขังไว้เพื่อรอส่งต่อไปยังปลายที่ในประเทศมาเลเซียเหมือนที่เจ้าหน้าที่ชุดนี้เคยจับกุมได้อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้
ทั้งนี้หลังการเข้าช่วยเหลือทาง พล ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวเเละป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ได้สั่งการดูเเลแรงงานต่างด้าวทั้งหมดอย่างดีที่สุดโดยเฉพาะเด็กๆและให้เร่งทำการซักถามคัดเเยกเหยื่อและขยายผลไปยังนายหน้าที่นำพากลุ่มคนเหล่านี้เข้ามาซึ่งเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์