เร่งตามคดีทำร้าย “จ่านิว” พบเชื่อมโยงคนร้ายกลุ่มเดิม

2019-06-30 12:30:16

เร่งตามคดีทำร้าย “จ่านิว” พบเชื่อมโยงคนร้ายกลุ่มเดิม

Advertisement

ผบ.ตร.ประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้องคดี ทำร้ายจ่านิว ยืนยัน มีความคืบหน้า แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ อยากให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้าต่อสู้ในสภา

วันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.มีนบุรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ เจ้าหน้าที่ๆ เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีนายสิรวิชญ์ถูกชายฉกรรจ์ 4 คน ทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ บริเวณบ้านพัก เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 62 โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการประชุม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาความเชื่อมโยงระหว่างเหตุที่เกิดในพื้นที่ สน.ห้วยขวางและพื้นที่ สน.มีนบุรี ว่าพฤติการณ์และกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อยืนยันข้อสันนิษฐานดังกล่าว ส่วนแรงจูงใจนั้น ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตัดประเด็นประสงค์ต่อทรัพย์ทิ้งเนื่องจาก ทั้ง 2 เหตุการณ์ไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของจ่านิว และจ่านิวไม่ได้เป็นบุคคลที่มีทรัพย์สิน ส่วนประเด็นอื่นๆ ก็ยังไม่ตัดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องการพนัน เรื่องชู้สาว และเรื่องการเมือง




พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น หากรู้สึกไม่ปลอดภัยสามารถเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมคุ้มครองสิทธิ หรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลได้ ซึ่งส่วนตัวอยากให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 8-9 กลุ่ม เข้าไปต่อสู้กันในสภาไม่ใช่ออกมาต่อสู้บนท้องถนน เพราะการเคลื่อนไหวบนท้องถนน สร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติ รวมถึงตำรวจก็ต้องจัดกำลังเข้าไปดูแล เป็นเหตุให้กระทบถึงการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น พรรคอนาคตใหม่ ที่เคยออกมาเคลื่อนไหว ก็เข้าไปต่อสู้ในสภา โดยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งเป็นวิธีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกต้อง ส่วนคดีของจ่านิว ก็มีการแบ่งหน้าที่ทำงานทั้งตำรวจในพื้นที่ ตำรวจสืบสวนนครบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยยังไม่สามารถเปิดเผยความคืบหน้าได้ แต่ยืนยันว่ามีความคืบหน้าพอสมควร

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดีย ได้มีการพูดถึงกลุ่มคนร้ายว่าเป็นคนในเครื่องแบบนั้น ตนขอยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดถึงในประเด็นนี้หากมีการเชื่อมโยงหรือพูดถึงบุคคลที่ 3 หรือบุคคลมีสี ในคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการจับกุมต่อไป สำหรับกระแสเรียกร้องให้มีการปลดเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเกิดเหตุนั้น ตนคิดว่าคงต้องทำใจกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเต็มที่ ซึ่งอาจจะไม่ตรงต่อความต้องการของกลุ่มใด



อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า ชุดสืบสวนทำการเปรียบเทียบเหตุการณ์ทำร้ายจ่านิว 2 เหตุการณ์ พบความเชื่อมโยงหลายส่วน เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกัน เช่น รูปพรรณสันฐานของคนร้าย จำนวนผู้ก่อเหตุที่มี 4 คน รถ จยย.ที่ใช้ คือ พีซีเอ็กซ์ รุ่น และสีเดียวกัน และเป็นที่น่าสงสัยว่ากล้องวงจรปิดทั้ง 2 เหตุการณ์มีลักษณะถูกเบี่ยงจากมุมเดิม ทำให้ไม่เห็นเหตุการณ์ขณะลงมือทำร้ายร่างกายจ่านิว