“ศรราม” เปิดใจเคลียร์ดราม่า บินลัดฟ้าพาครอบครัวหนีข่าว หลังถูกโยงคดี “ปุ๊กกี้”

2019-06-28 14:15:12

“ศรราม” เปิดใจเคลียร์ดราม่า บินลัดฟ้าพาครอบครัวหนีข่าว หลังถูกโยงคดี “ปุ๊กกี้”

Advertisement

เปิดใจไขข้อสงสัย “หนุ่ม ศรราม” ควง “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” เคลียร์ใจดราม่า บินลัดฟ้าหนีเอี่ยวคดีดัง “ปุ๊กกี้ ปริศนา” พร้อมเผยคนล้มแล้วอย่าข้าม แสดงความเสียใจกับเขาไม่ใช่เรื่องเสียหาย

เป็นเจ้าของข่าวลือที่หลายคนให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ศรราม เทพพิทักษ์” ที่ก่อนหน้านี้ไม่นานเจ้าตัวก็เพิ่งจะเมาท์ว่าเอี่ยวในคดีดัง หลังจากที่อดีตนักร้องดัง “ปุ๊กกี้ ปริศนา” โดนบุกจับที่บ้านพักพร้อมกับยาเสพติดจำนวนมาก ต่อมาก็มีข่าวเมาท์ ข่าวลือ ออกมาให้ควั่กว่ามีดาราอีกหลายคนเอี่ยวกับคดีของปุ๊กกี้ด้วย หนึ่งในก็มีดาราอักษร ศ. หลุดออกมาให้แฟนๆ ได้ตามสืบกันให้วุ่น งานนี้ก็ทำเอาหลายคนพุ่งประเด็นไปที่หนุ่มศรราม อยู่ไม่น้อย




พอมีประเด็นข่าวลือออกมาไม่นาน ก็ประจวบเหมาะกับเจ้าตัวได้พาภรรยาสาว “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” และลูกสาววัย 2 เดือน “น้องวีจิ” บินลัดฟ้าไปเที่ยวพักผ่อนกันแบบยกครอบครัวกันที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำข้อสงสัยของหลายๆ คน ว่าหนุ่มศรราม กำลังพาครอบครัวหนีข่าวลือหรือเปล่า และจากกระแสข่าวดังกล่าว ทำให้หนุ่มศรรามต้องออกมาไลฟ์สดเคลียร์ถึงข่าวเมาท์ต่างๆ ว่าที่ไปฝรั่งเศลนั้นก็แค่ไปเยี่ยมญาติ ไม่ได้หนีอะไรทั้งนั้น... 






ล่าสุด พอกลับถึงกลับมาถึงประเทศไทย หนุ่มศรราม ก็ได้ควงติ๊ก พร้อมด้วยลูกสาว มาเปิดใจผ่านทางรายการ “คุยแซ่บ SHOW” ถึงเรื่องราวดราม่าต่างๆ ว่า…

เป็นไงบ้างมีลูกชีวิตเปลี่ยนไหม ? 

ศรราม : "ดีครับมีความสุขแล้วก็สมบูรณ์"

ล่าสุดเพิ่งไปฝรั่งเศส ? 

ศรราม : "ใช่ครับเพิ่งกลับมาเมื่อวาน"






พี่พาครอบครัวไปเที่ยว แต่ก็มีประเด็นข่าวร้อนให้เคืองหู ? 

ศรราม : "คือต้องเรียนแบบนี้ก็คือว่า 10 ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสไปเล่นคอนเสิร์ตที่ยุโรปแล้วก็ที่ฝรั่งเศสด้วย ซึ่งครอบครัวนี้เป็นครอบครัวของอาม่าที่เราสนิทมาก แต่ตอนที่วีจิคลอดอากงไม่สบายก็เลยไม่ได้บินมาเยี่ยม เราก็เลยตกลงกันว่าเดี๋ยวตอนวีจิสัก 2 เดือนครึ่ง เราจะพาไปหา"

แต่มันก็ห้ามไม่ได้กับประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ว่าเราหนึไปฝรั่งเศส เพื่อหนีข่าวดังที่เมืองไทย ? 

ศรราม : "ต้องเรียนแบบนี้ครับที่มันเกิดขึ้นพี่หนุ่มรู้ทีหลังเลย เพราะพี่อยู่บนเครื่องแล้วเราก็ดูคอมเมนต์ต่างๆ ก็อย่างที่ทราบกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง แต่โดยส่วนตัวเราไม่ใส่ใจอยู่แล้ว เพราะว่าตัวเราทำอะไรเรารู้ตัวเราดี แล้วก็พอทุกอย่างมันเกิด เราก็มัวแต่ดูลูก ทำนู้น ทำนี่ จนทุกอย่างมันชัดเจนหมดแล้ว



เรื่องอักษรย่อมันเป็นการกุขึ้นมาทั้งนั้นทางตำรวจก็ออกมาบอกว่าลักษณะของข่าวมันเป็นมายังไง เราก็เลยถือโอกาสชี้แจง แล้วอีกส่วนน้องเขาเป็นเพื่อนร่วมงานมาก่อน เราก็แสดงความเสียใจกับเขาด้วย พูดตรงๆ นะ คนล้มอย่าข้าม อย่างน้อยแสดงความเสียใจกับน้องเขาไม่ใช่เรื่องเสียหาย ส่วนที่เราจะมาบอกว่าตัวเราไม่ได้ทำสิ่งต่างๆ อันนั้นก็เป็นอีกส่วนนึงที่เรามีความจำเป็นที่จะใช้ช่องทางของเราในการชี้แจง"

พี่โกรธไหม ? 

ศรราม : "ไม่ได้โกรธครับ พี่ชี้แจงที่เป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด แล้วก็ไม่ได้ชี้แจงด้วยอารมณ์ที่มันฉุนเฉียวหรือว่าโมโหอะไร"

มีคุยกับครอบครัวไหมว่าทำไมชื่อต้องมาเกี่ยวโยงกับเรา ? 

ศรราม : "ไม่มีครับ แต่คือติ๊กจะเป็นคนที่ให้กำลังใจตลอด"




ให้กำลังใจยังไงบ้าง ? 

ติ๊ก : "ก็มันไม่ใช่ความจริง คือติ๊กมองว่าคนเราเวลาจะเครียด เราจะต้องเครียดเรื่องที่มันเป็นความจริง ความผิดจริง อันไหนเราไม่ผิด เราจะมานั่งเครียดทำไม เราก็เที่ยวแฮปปี้ของเราไป"

แต่มันก็มีคนมาเมนต์ว่าเอาไปเที่ยวทำไม น้องวีจิยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ส่วนคุณพี่ก็ตอบกลับไป ? 

ศรราม : "คุณพ่อตอบกลับไปด้วยความสุภาพว่ารู้เรื่องมากกว่าคุณ ก่อนไปก็ถามอาจารย์หมอไปแล้วว่าวีจิรู้เรื่องไหม อาจารย์หมอก็บอกว่าเด็กมันรู้เรื่องตั้งแต่อยู่ในท้องว่าเขาเป็นลูก เพียงแต่ว่าการที่เขาจะเก็บเมมโมรี่ได้ต้อง 6 เดือนไปแล้ว แต่ถามว่าเขารู้เรื่องไหม เขาจำกลิ่น จำความอบอุ่นของพ่อแม่ได้"






เมื่อกี้บอกว่าไปเยี่ยมญาติที่ปารีส ก็มีการเตรียมการไว้ก่อนแล้ว ไม่ใช่ว่ามีข่าวแล้วเราไป ? 

ติ๊ก : "ไม่ได้หนีพี่ ชีวิตหนูทำไมจะต้องหนี หนีอะไรเราไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าหนีแล้วจะกลับมาทำไม"

มาถามถึงวินาทีแรกที่พี่เห็นหน้าลูกสาว ? 

ศรราม : "ตอนนั้นทำอีเวนต์อยู่ที่เยอรมัน ตอนแรกตั้งใจจะให้เกิดวันเดียวกับแม่ 13 เมษายน แล้วกำหนดกลับของผมคือวันที่ 9 เมษายน แต่แอบคุยกับคุณหมอ คุณหมอบอกว่าคาดว่าน่าจะคลอดก่อน ตอนนั้นวีดิโอคอลน้ำตาไหลเลย เห็นหน้าลูกครั้งแรกแล้วบอกว่า ทุกเดือนก็เฝ้าว่าอัลตราซาวด์เมื่อไหร่ จะเห็นหน้าเขาไหม เขาพลิกตัวหรือยัง พอเห็นเขาคลอดออกมาสมบูรณ์แข็งแรงผมก็ดีใจครับ"




นอกจากดราม่าเรื่องคนอื่น บ้างทีเราทำอะไรก็มาเกาะกระแส แสดงความคิดเห็น ? 

ศรราม : "ผมไม่ใช่คนไปท้าตี ท้าต่อย หรือว่าไปนั่งเถียงอะไรมากมาย อย่างที่ติ๊กบอกตั้งแต่ทีแรกว่าถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เราก็จะไม่ยุ่งกับเขา ก็ต้องบอกว่าเราทำงานมาอายุขนาดนี้เรามีบริษัทต่างๆ เราก็มีที่ปรึกษาทางกฎหมายอยู่แล้วที่จะคอยเก็บหลักฐานข้อมูลที่ออกมาทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางกฎหมาย แต่ในส่วนความรู้สึกของเรา เรารู้สึกว่าไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้เก็บมา เพราะเราไม่ให้ความสำคัญกับเขา"






แล้วตัวติ๊กเองรู้สึกยังไงบ้าง พอมีข่าวโดนพูดถึง คิดจะจัดการไหม ? 

ติ๊ก : "อยากไปเคาะประตูถามว่ามึงมีอะไรกับกูไหม ล้อเล่นๆ คือแรกๆ มีความรู้สึกพรั่งพรูอยากเอาคืนมาก คือแบบว่าเราไม่ผิด แต่ตั้งแต่รู้ว่าท้องวีจิก็บอกกับตัวเองว่าเราเป็นแม่คนแล้วนะ เราต้องใจเย็นลง แล้วพี่หนุ่มก็สอนด้วยว่าเราไม่ควรให้คุณค่ากับคนที่เขาไม่ให้ค่าเรา เราควรใจเย็น เราควรมีความสุขของเราได้ภายในบ้านเรา

ซึ่งเราไม่ได้ทำอะไร เราคิดดี ทำดี ยืนอยู่บนเส้นทางที่ดี มักจะได้ดีเสมอ ก็เลยโอเคไม่เป็นไรก็ปล่อยๆ แต่บางวันก็จะมีว่าเห้ย ทำไมมาบ่อยๆ มาแล้ว มาอีก อยู่ในโลกมโน วนเวียนเหมือนผีมาหลอกทำไมไม่หายสักที"




อยากทำให้หายไปไหม ? 

ติ๊ก : "อยากเอาน้ำมนต์ไปสาด"

เคยคิดกับพี่หนุ่มไหมว่าทำยังไงดี อยากใช้ชีวิตเงียบๆ บ้าง ?

ติ๊ก : "เราห้ามเขาไม่ได้หรอก ถ้าเขามีความสุขในสิ่งที่เขาจะทำแบบนั้น คือคนเราเรามีความสุขที่จะทำในเรื่องที่ดีๆ เรามีความสุขแบบนี้ ถ้าใครมีความสุขกับเรื่องที่ไม่ดี คิดไม่ดีกับคนอื่นใส่ร้ายคนอื่น เขามีความสุขตรงนั้นเราก็ห้ามเขาไม่ได้ ก็ปล่อย ทางเดินชีวิตของเราของเขาอาจจะไม่เหมือนกัน"








ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @sornram_theappitak, @mama_veeji