"ต่าย" สบายใจขึ้นเผยศาลสั่งให้แบ่งกันเลี้ยง "พิพิม"

2019-06-27 18:35:51

"ต่าย" สบายใจขึ้นเผยศาลสั่งให้แบ่งกันเลี้ยง "พิพิม"

Advertisement

ยังคงคาราคาซังเรื่องราวชีวิตครอบครัวอยู่จนถึงขั้นต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน สำหรับคู่ของอดีตคนเคยรักอย่าง "ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ" กับ "ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ที่ตอนนี้ศาลได้ตัดสินให้ทั้งสองแบ่งเวลาเลี้ยงดูลูก งานนี้พอเจอเจ้าตัวเลยขออัพเดตสถานการณ์ในปัจจุบันได้ความว่า

น้องพิพิมตอนนี้ให้ "ทิม" ดูแล ?
ใช่ค่ะ ตอนนี้ก็คือทำทุกอย่างตามที่ศาลกำหนดมาก่อน ตอนนี้ศาลจะให้สิทธิ์ทั้งคู่เท่ากัน ก็คือคุณพ่อ 50% คุณแม่ 50%





แต่มันมีเรื่องบ้านหลักด้วยไหม ต่ายได้ยื่นคำร้องไปด้วยหรือเปล่า ?
เรื่องนี้ก็คือยังไม่เรียบร้อย แต่ว่าตอนนี้ก็คือดำเนินการตามนี้ไปก่อนค่ะ



มีการแบ่งเวลากันยังไงบ้าง ?
ก็คือเวลาตามที่ศาลกำหนดมาค่ะว่า คนละครึ่งค่ะในช่วงนี้ ของต่ายก็จะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ค่ะ



ในส่วนของคดีความ ยังมีอะไรที่ค้างคาที่ว่าเราจะยื่นให้เขาไหม ?


อันนี้ยังไม่เรียบร้อยค่ะ

ตัดสินใจว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ?
ช่วงนี้ก็คือดำเนินตามนี้ไปก่อน





สบายใจไหม ที่ตอนนี้เป็นอย่างนี้ ?
มันก็ดีขึ้น สบายใจขึ้น รู้สึกว่าทุกอย่างเราก็อยากให้ลูกได้รับอะไรที่ดีที่สุด และก็กระทบจิตใจเราน้อยที่สุดค่ะ

สภาพจิตใจน้องเป็นยังไงบ้าง ?
ก็การพัฒนาการทุกอย่างของเขาก็ดี ปกติค่ะ แต่ว่าเรื่องของความเข้าใจอะไรก็มีมากขึ้นค่ะ

สภาวะอารมณ์ของน้องตามวัยเด็กใช่ไหม ?
ตามวัยๆ ค่ะ





มีอะไรที่ยังกังวลอยู่บ้างไหม ?
จริงๆ คนเป็นแม่ก็กังวลทุกเรื่องอยู่แล้ว แค่ลูกยุงกัดก็กังวลอยู่แล้ว มันคือทุกๆ อย่าง และเราดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วค่ะ

น้องปรับตัวได้แล้วใช่ไหมที่ต้องไปบ้านนั้น และพอถึงเวลาก็มาบ้านนี้ ?
ก็ดีขึ้นค่ะ เหมือนด้วยอายุเขาจะมีความเข้าใจอะไรมากขึ้น วัยเขาก็จะเข้าใจกฎของสังคมตอนนี้ต้องยังไง ด้วยพัฒนาการของเขาด้วยค่ะ



เราบอกกับลูกยังไงกับการที่ต้องย้ายไปย้ายมาตลอด ?
เราก็จะบอกตลอดว่าอันนี้เรามีความจำเป็นยังไง คุณพ่อต้องทำอะไร คุณแม่ต้องทำอะไร ก็คือจะอธิบายเป็นเหตุเป็นผลให้เขาเข้าใจตลอด เพื่อที่ตัวเขาเองก็จะได้เป็นเด็กที่โตขึ้นมาและมีเหตุมีผลด้วย

เราตั้งใจว่านี่จะเป็นการเคลียร์ปัญหาระยะยาวเลยไหมกับการที่ให้ลูกอยู่ 2 บ้าน ?
ก็ถือว่ายังคาราคาซังอยู่นะคะ

เพราะต่างฝ่ายยังไม่เริ่มที่จะคุยกันหรือเปล่า ?
มันเหมือนกับว่าพอเราทั้งสองคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน หรืออยากได้สิ่งเดียวกันมันก็เลยยังตกลงกันไม่ได้



แสดงว่าใจเราก็ยังไม่ได้โอเคกับสภาวะที่ลูกต้องอยู่ 2 บ้าน ?
จริงๆ ยังไงในอนาคตต่อไปเขาก็ต้องมีคุณพ่อคุณแม่ เพราะเราก็ไม่เคยคิดจะให้เขาขาดใครคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว แต่ว่าจะให้เขาอยู่ยังไวให้มีคุณภาพที่สุดตามที่คุณหมอเด็กแนะนำ ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ยังไม่ถือว่าดีสำหรับเขาค่ะ

ต้องใช้กฎหมายเข้ามาช่วยไหม หรือคิดว่าเราสามารถคุยกันได้ ?
หวังว่าจะคุยกันได้นะคะ ไม่ว่าจะวิธีใดวิธีหนึ่งก็ขอให้มีบทบสรุป

ตั้งแต่ตอนที่เจอกันที่ศาลครั้งล่าสุดเราก็ยังไม่ได้คุยกันใช่ไหม ?
ยังไงเราก็ยังต้องเป็นคุณพ่อคุณแม่ของลูก ยังไงก็ต้องมีเรื่องลูกที่ต้องปรึกษากันอยู่แล้วค่ะ



ทุกวันนี้เวลาพี่ทิมไปทำงานต่างจังหวัด น้องก็จะอยู่กับเราใช่ไหม ?
ก็...อันนี้เราก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาก็จะมอบให้คนอื่นดูแล คิดว่าเพราะเราไม่สามารถแตะอะไรตรงนั้นได้

บอกเขาไม่ได้หรอว่าช่วงนั้นเราจะมาดูแลแทน ?
คือเราก็บอกเขาตลอด ว่าถ้าไม่ว่างขอให้บอก เพราะอย่างไรเราว่างดูตลอดอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีช่วงไม่ว่างแล้งลูกมาอยู่กับเรา

ความสัมพันธ์ของต่ายกับทิมตอนนี้เป็นอย่างไร ?
เป็นพ่อกับแม่ จริงๆ เราสามารถยกทุกอย่างออกไป ถึงแม้เราจะเลิกกันแล้ว ถึงแม้จะเคยทำกันเจ็บปวด แต่เราก็รู้สึกว่ามันคืออดีต เราก็โฟกัสเรื่องวันนี้เราต้องดูแลพิพิมให้ดีที่สุด ต้องโฟกัสที่ลูก



ความสัมพันธ์ตอนนี้หย่ากันหรือยัง ?
ยัง แต่ว่ามีการตกลงกันต่อหน้าผู้ใหญ่ 2 ฝ่าย ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม ปีที่แล้ว ว่าหยุดสถานะการเป็นสามีภรรยากัน

ต้องรอเอกสารอย่างเป็นทางการหรือว่าอะไร ?
คือเรื่องนี้ต้องรอปรึกษาคือมันเป็นเรื่องละเอียด ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำอะไรได้โดยพลการ จะทำอะไรก็ได้

ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหมหรือต้องปรับตัว ต้องระมัดระวังอะไรบ้าง ?
ก็ไม่ค่อยนะเรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น เหมือนเราได้อยู่กับครอบครัวของเราอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความอบอุ่น ทำให้รู้สึกมีความอบอุ่น ในชีวิตและก็มีกำลงใจในการเลี้ยงดูพิพิม ถ้าพลังเราเต็ม ถ้าเรามีความสุขเราจะสามารถถ่ายทอดพลังที่จะดูแลเขาแม้ว่าจะเป็นวันที่เขางอแงที่สุดเราก็ยังสู้ดูแลลูกได้



สภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
คือโอเคมานานมากแล้ว ทุกอย่างมองเป็นเรื่องปกติ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ คนอื่นจะมองอย่างไรเราก็ไม่ได้เอาตรงนั้นเข้ามากระทบจิตใจ คือตอนแรกเราไม่อยากพูดเลย ก็ไม่อยากพูด มันก็คือเรื่องที่เรารู้ของเรากับเพื่อนของเราคนอบข้างและครอบครัว ว่าที่ตัดสินใจพูดไปมันมีความจำเป็นจริงๆ

ตอนนี้หันมารับงานมากขึ้น ?
ใช่ค่ะ จริงๆ ต่ายเขียนไว้ในไอจีตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว คนอาจจะไม่ได้สังเกต พอเราตกลงกัน เราก็โพสต์เลยว่าเราก็กลับมารับงานนะ กลับไปดูได้

สรุปตอนนี้ลูกเรียนที่ไหน ?
อันนี้ต่ายไม่อยากลงรายละเอียดดีกว่าค่ะ



แต่เรายังไม่คิดที่จะฟ้องให้จบว่าใครจะได้สิทธิ์นั้นหรือฟ้องหย่าใช่ไหม ?
อยู่ในขั้นตอนที่กำลังปรึกษากันค่ะ ทุกอย่างคืออยากให้พิพิมได้รับผลที่ดีที่สุดค่ะ

ปรึกษากันคือปรึกษากับทิม เพื่อหาทางออกร่วมกันหรือปรึกษากับทางฝั่งของเรา ?
ปรึกษากับผู้ใหญ่ คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ ว่าทำยังไงให้การเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งขึ้นมาจะต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

ต้องพึ่งศาลอีกไหม ?
ก็อย่างที่บอกค่ะว่าด้วยวิธีไหนก็ได้ จะคุย จะปรึกษาหรือศาล หรืออะไรก็ตาม แต่อยากให้ผลลัพท์ออกมา เอาตัวเด็ก เอาผลประโยชน์ของลูกเป็นที่ตั้งที่สุด เราไม่ควรเอาลูกมาเป็นลูกบอลในการโยนไปโยนมา เราอยากให้เขาเติบโตมาอย่างสมบูรณ์ที่สุดค่ะ



กว่าจะเคลียร์ลงตัว ระยะเวลามันจะนานไหม ?
ไม่ทราบเลยค่ะ แต่ก็อยากให้เร็วที่สุดค่ะ

รวมถึงเรื่องหย่าด้วยใช่ไหม ?
ใช่ค่ะ