“ปิยบุตร”หวังศาลมีมาตรฐานตัดสินปม ส.ส.ถือหุ้นสื่อ

2019-06-27 18:20:49

“ปิยบุตร”หวังศาลมีมาตรฐานตัดสินปม ส.ส.ถือหุ้นสื่อ

Advertisement

“ปิยบุตร”หวังศาล รธน.จะมีมาตรฐานในการตัดสินที่เท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติปม ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ระบุหากแนวทางไม่เหมือนศาลฎีกา เขารอด เราก็ต้องรอด

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที จำกัด (มหาชน) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส.ส.ฝ่ายค้าน 33 คน กรณีเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิ แต่ก่อนหน้านั้น ในช่วงเช้าทราบมาว่าจะใช้วิธีการร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่คงเปลี่ยนการตัดสินใจ เพราะเปิดรัฐธรรมนูญแล้วพบว่าไม่มีช่อง จึงหันมาใช้ช่องนี้ ซึ่งพวกท่านมีวาสนากว่าตน เพราะได้ยื่นถึงมือนายชวน โดยตรง ขณะที่ตนต้องยื่นผ่านเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ต้องติดตามดูต่อไปว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า สำหรับกรณี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 21 รายที่ปรากฏรายชื่อในคำร้องนั้น ยืนยันว่าหลายกรณีมีการโอนหุ้นไปแล้ว และหลายกรณีก็เป็นบริษัทที่ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ และใจความที่ตนย้ำมาตลอด คือเจตนารมณ์ที่แท้จริงของรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องการให้นักการเมืองไปครอบงำสื่อเพื่อใช้เอาเปรียบกันทางการเมือง แต่จากกรณีนายภูเบศวร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิจารณาจากหนังสือบริคณห์สนธิ เจอวงเล็บใดเกี่ยวกับสื่อก็ตัดสิทธิทันที จึงเกิดปัญหาซ้ำซ้อนกันแบบนี้ ดังนั้น สิ่งที่พรรคยืนยัน คือเราเห็นว่าการตีความกฎหมายเช่นนี้มีปัญหา ท้ายที่สุด เรื่องนี้จะอยู่ในมือของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหวังว่าศาลจะมีมาตรฐานในการตัดสินที่เท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ ในเมื่อตัดสินคดีนายภูเบศวร์ และ นายคมสัน ศรีวนิชย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.อ่างทอง พรรคประชาชาติ มาแล้ว ทำให้เกิดมาตรฐานขึ้นมา อย่างน้อยที่สุด ครั้งนี้เป็นโอกาสให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เกิดความชัดเจน หากกรณีที่ถือหุ้นในบริษัทที่ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อจริงๆ แต่หนังสือบริคณห์สนธิมีเรื่องสื่อ ถ้าแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญจะไม่เหมือนศาลฎีกา หากเขารอด เราก็ต้องรอด ต่อข้อถามว่า มีกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญอาศัยบรรทัดฐานของศาลฎีกาในการตัดสินหรือไม่ นายปิยบุตรกล่าวว่า มีโอกาสที่จะตัดสินไม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไรก็ขอให้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับส.ส.ทุกคนทุกพรรค