งดงาม...สาวงามมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เข้าวัดป่าดาราภิรมย์พร้อมร่วมประเพณียี่เป็ง ณ วัดโลกโมฬี
วัดป่าดาราภิรมย์ เป็นพระอารามหลวงแห่งที่ 7 ในจังหวัดเชียงใหม่ และมีความงดงามทางสถาปัตยกรรม ล้านนาอย่างยิ่ง ทั้งหอพระแก้ว พระธาตุเจดีย์พระพุทธบาทสี่รอย พระอุโบสถซึ่ง ประดิษฐานพระประธานเป็น พระพุทธรูปปางสมาธิศิลปสุโขทัย พระนามว่า “พระสยัมภูโลกนาถ” ที่มีความงดงามทางพุทธศิลป์ วัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ด้านหลังที่ว่าการอำเภอแม่ริมและค่ายดารารัศมี ชื่อของวัดจึงถูกตั้งขึ้นตามพระนามของ "พระราชชายา เจ้าดารารัศมี" ประวัติของวัดมีความน่าสนใจอย่างยิ่งด้วยเป็นวัดที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ออกจาริกธุดงค์ มาทางภาคเหนือและได้พำนัก ณ ป่าช้าร้างติดกับสวนเจ้าสบาย พระตำหนักดาราภิรมย์ของ พระราชชายาเจ้า ดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสถานที่สงบ เป็นสปายะในการบำเพ็ญกรรมฐาน และมีพระสงฆ์ได้เข้ามาบำเพ็ญ กรรมฐาน เมื่อชาวบ้านเห็นจึงเกิดศรัทธาและร่วมกันสร้างเสนาสนะต่างๆ ถวายเพื่อให้คณะสงฆ์ได้ใช้ใน กิจการ สงฆ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 เจ้าหญิงลดาคำ ณ เชียงใหม่ ทายาทของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ได้ถวายที่ดินดัง กล่าวซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐานพระตำหนักเจ้าดารารัศมีให้แก่วัด
หลังจากชื่นชมความงดงามของวัดแล้ว ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์กลุ่มที่ 1 ได้เดินทางไป เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม (MAIIAM Contemporary Art Museum) อำเภอสันกำแพงพิพิธภัณฑ์นี้เป็นแหล่งเรียนรู้และเสพงานศิลปะร่วมสมัย ที่รวบรวมเอาผลงานศิลปะของศิลปินไทย และในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มารวมไว้ให้ผู้ชื่นชมงานศิลปะและนักท่องเที่ยวได้เข้าชม สำหรับชื่อของ พิพิธภัณฑ์เป็นการผสมคำว่า "ใหม่" ที่มาจากชื่อเมืองเชียงใหม่ กับคำว่า "เอี่ยม" เพื่อรำลึกถึง เจ้าจอมมารดา เอี่ยม พระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ซึ่งเป็นคุณย่าทวดของ คุณเอริค บุนนาค บู๊ทซ์ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ เมื่อรวมสองคำเข้าด้วยกันจึงกลายมา เป็นคำว่า "ใหม่เอี่ยม" ซึ่งมีความหมาย ว่าดีเยี่ยมนอกจากเหล่าสาวงามได้เยี่ยมชมงานศิลปะที่น่าสนใจแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ฯโเยร้านอาหารกำแพงแก้วยังได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน แก่ผู้เข้าประกวดฯ พร้อมทีมงานและสื่อมวลชนอีกด้วย ซึ่งนอกจากมีอาหารไทยโบราณเช่น สัปปะรดม้าฮอก แตงโมปลาแห้ง เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยแล้ว จานหลักกับข้าวที่เหล่าสาวงามชื่นชอบมากคือ เป็ดย่างน้ำผึ้ง หมูอบซี่โครง และแกงเปรี้ยวใหม่เอี่ยม ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของที่นี่ สำหรับสาวงามกลุ่มที่ 2 คือหมายเลข 21-40 ได้เดินทางไปยังเรือนไทยโบราณ ศิลาดล ตั้งแต่ 09.30 น. โดยมี นางสาวทัศนีย์ ยะจา กรรมการบริหาร เชียงใหม่ศิลาดลแอดดอยสะเก็ดบายทัศนีย์ให้การต้อนรับ โดยสาวงามกลุ่มที่ 2 ได้เปลี่ยนมาสวมชุดพื้นเมืองล้านนา และฝึกงานหัตถกรรมต่างๆ อาทิ การปั้นเครื่องปั้นดินเผา เขียนลาย-ขูดลาย-ลงสีเครื่องปั้นดินเผา การตีลายเครื่องเงิน การเพนท์ร่ม การทำตุงสิบสองนักษัตร และทำโคมล้านนา พร้อมรับประทานอาหารกลางวันที่เชียงใหม่ศิลาดลจัดเลี้ยงรับรอง จนถึงเวลา 14.00 น. สาวงามหมายเลข 1-20 ได้มาสมทบและถ่ายวีทีอาร์ ณ เรือนไทยศิลาดลในแนวคิดเรียนรู้วิถีชีวิตแม่หญิงล้านนา เช่น การทำข้าวต้มมัด การทำสรวยดอกไม้ พับดอกบัว ในเวลา 16.30 น. ผู้เข้าประกวดฯ ทั้งหมด ได้เดินทางไปยังวัดโลกโมฬี ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อถ่ายทำวีทีอาร์เชิงวัฒนธรรมประเพณี โดยสาวงามได้เปลี่ยนชุดพื้นเมืองอีกครั้งโดย หมายเลข 1-10 และ 21-30 สวมชุดพื้นเมืองแม่นายคือเสื้อขาว นุ่งซิ่นตีนจกสอดดิ้นเงิน ห่มสไบสีดำ หมายเลข 11-20 สวมชุดไทยยวน เสื้อแขนกระบอกสีเทา ซิ่นตีนจกสอดดิ้นทอง สไบดำ หมายเลข 31-40 เสื้อปั๊ดห่มสไบขาว นุ่งซิ่นมัดก่านน่าน (ซิ่นไตลื้อเมืองน่าน) โดยให้สาวงามทั้ง 40 คนร่วมอยู่ในประเพณียี่เป็ง การฟังเทศน์มหาชาติ และกาดหมั้วครัวฮอม หรือตลาดโบราณล้านนา เพื่อสื่อสะท้อนถึงประเพณีวัฒนธรรมอันเป็นที่สุดของนครล้านนา
สำหรับวัดโลกโมฬี เป็นวัดโบราณที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอายุนานกว่า 500 ปี และครั้งที่พระนางจิระประภามหาเทวี เสวยราชย์ครองเมืองเชียงใหม่ ได้ทรงอุปถัมภ์วัดโลกโมฬีแห่งนี้ ปัจจุบันวัดโลกโมฬีเป็นศูนย์กลางการศึกษาศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยมีการจัดกิจกรรมขึ้นในเทศกาลสำคัญต่างๆ สิ่งสำคัญภายในวัดประกอบด้วยเจดีย์ทรงปราสาท สันนิษฐานว่าสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2071 และมีประติมากรรมรูปเทวดาที่ประดับตามมุมของเจดีย์ตามคติล้านนา ส่วนวิหารหลวง สร้างขึ้นใหม่ภายหลังการบูรณะวัดเป็นศิลปะแบบล้านนา มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ โดยมีพระประธานนามว่า “พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ” ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนพระเมาลี
