ดูใจกันมานานจนเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างลงตัว เพราะเราและเขาดูแลกันมาจนรู้ตัวว่าคือคู่แท้ที่ตามหา ถึงคราต้องประกาศความรักครั้งนี้ให้โลกรู้ หลังจากที่เคยเป็นเพื่อนสนิท จนหัวใจถูกพิชิตไปไม่รู้ตัว รู้อีกทีก็รักเขาเข้าเต็มเปา สำหรับนักร้องสาวห้าวมาดสุดเท่ เสียงมีเสน่ห์ขรึมเข้ม "สุกัญญา มิเกล" ล่าสุดได้เจอในงานแถลงข่าว “Green Concert#22 The Lost Rock Songs” เลยขอถามถึงเรื่องหมั้นกับคนรักที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ชื่อว่า “จอม” พร้อมอัพเดตงานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ได้ความว่า
เรื่องหมั้นกับสาวนอกวงการชื่อ “จอม” จริงไหม ?
หมั้นแล้วค่ะ คนอาจจะสนใจกันเยอะ เพราะก่อนหน้านี้เราได้ประกาศเรื่องที่เลิกกับสามีคนเก่า คนก็ช็อกกันมาก เนื่องจากตอนนั้นแต่งกันเงียบๆ จนมีลูกมีเต้า และตอนนี้ลูกโตเป็นหนุ่มแล้ว หลังหย่ามาได้ 4 ปี เราก็ประกาศตัวเป็นเพศที่ 3 ได้ 3 ปีมาแล้ว เผอิญคนนี้เจอกัน และมีเรื่องมีราวที่ทำให้ได้มาใช้ชีวิตในบ้านหลังเดียวกันในสถานะเพื่อน เราก็เห็นถึงสิ่งที่เขามีดี ที่สำคัญทุกความเป็นห่วงเป็นใย เขาเริ่มรู้สึกกับเราดีขึ้น ที่สำคัญเวลาที่เจอปัญหาอะไรเขาไม่ทิ้งเรา อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการที่โลกจะมองว่าต้องเป็นเพศนั้นเพศนี้ถึงจะเหมาะสม สำคัญคือคนเรามาอยู่ร่วมกันแล้วมันเกิดความสุขใจ และไว้ใจ ส่วนที่หลายคนพูดว่าเดี๋ยวมันก็ไม่รอดหรอก ไม่รอดก็ไม่เป็นไรเพราะครั้งแรกเราก็ไม่รอดไปแล้ว
คนในครอบครัวอย่างลูกๆ ว่ายังไงบ้าง ?
ลูกน่าจะมีปัญหาตั้งแต่เราหย่าแล้วไหม อันนี้พูดกันตรงๆ แต่กับลูกคนโตมีอะไรเราก็จะบอกก่อน ครั้งแรกก็บอกไปว่า เดี๋ยวจะมีน้าคนนึงมาอยู่ด้วย แล้วก็บอกอีกว่า เดี๋ยวจะต้องอยู่กันไปอย่างนี้ แล้วพอเริ่มเปลี่ยนสถานะก็จะคุยกับลูกอีกครั้งว่าเป็นยังไง เราบอกลูกคนแรกเลยในการที่เราเป็นเพศที่สาม ตอนแรกเขาก็ถามว่าที่เพศที่สามคืออะไร เราก็ได้โอกาสอธิบายให้เข้าใจซึ่งเป็นในทางวิชาการหมดเลย ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอารมณ์ส่วนตัว วันนึงลูกเราก็ต้องโบยบินไปมีชีวิตของตัวเอง ที่เหลือเราก็ต้องอยู่คนเดียว ฉะนั้นเราก็ต้องหาคนที่จะเป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิต ซึ่งเราก็มีเพื่อนคนที่จะได้ไปสนุกร่วมกัน และเป็นคนที่เราไว้ใจที่สุด เราตามหาคนที่เราไว้ใจที่สุด แต่ไม่ได้ตามหาคนเซ็กส์ที่ดีที่สุด
แต่งงานต่อเลยไหม ไหนๆ ก็หมั้นแล้ว ?
งานแต่งมีขึ้นวันที่ 6 ก.ย. แต่งเสร็จก็มาขึ้นคอนเสิร์ตต่อเลย (หัวเราะ) ถามว่าระยะเวลาในการดูใจน้อยไปไหม การเป็นเพื่อนกันราวๆ เกือบปี แต่ว่ามีโอกาสได้เจอกันก่อนตั้งแต่ตอนที่เขามาดูคอนเสิร์ตเราก็ 2 ปีแล้ว หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยให้กำลังใจกันในฐานะเพื่อน จนพอเขามีอุบัติเหตุในชีวิตก็เข้ามาพักกับเรา ตอนนั้นเริ่มเห็นกันชัดขึ้น เจอกันเกือบ 24 ชม. แค่แยกห้องนอนเฉยๆ ที่เหลือก็ทำกิจการร่วมกันทั้งวัน เขาช่วยดูแลลูกและติดต่อประสานให้เรา
เขามาจีบเราใช่ไหม ?
ไม่ได้จีบตั้งแต่แรก จริงๆ เรามาเจอกันในสถานะเพื่อน คือเราเจอเพื่อนที่เป็นลูกครึ่งเหมือนกัน เป็นลูกกำพร้าเหมือนกัน แล้วต้องการความช่วยเหลือ เราช่วยหมดแหละ อันนี้คือนิสัยเรา พอเริ่มมาคิดจริงๆ ว่าเขาแตกต่างไป เขาก็เริ่มจีบเราทางโซเชียลของเขา แต่เราเริ่มมาเห็นจริงๆ คือวันที่เรามีปัญหาที่มีบุคคลคนหนึ่งแจ้งความจับเรา แล้วลูกชายเราร้องไห้ ลูกชายบอกว่าเขาไม่รู้เลยเหรอว่าผมต้องมีคนดูแลนะ แล้วคุณจอมเขาก็เดินมากอดลูกเรา แล้วเขาก็บอกว่าถ้ามีวันนั้นพี่จอมจะไปเข้าคุกแทนหม่ามี้เอง วันนั้นเป็นวันที่เราซึ้งมาก คนๆ หนึ่งที่กล้าพูดกับเด็กแบบนี้ เขาคงไม่โกหก ซึ่งถ้ามันจำเป็นจริงๆ เราเชื่อว่าเขาทำจริง แล้วลูกชายเราดีขึ้นจากสิ่งนี้ เขาไม่ได้พยายามเอาตัวเองเขาไปแทรก เราเริ่มมองเรื่องของการอยู่ร่วมกัน เขาเข้ากับลูกเราได้ง่าย เขาพูดจาให้สติและสอนลูกเราแบบนุ่มนวลได้ดีมากๆ ไม่เป็นคนอารมณ์ร้อน เรามองหลักๆ คือเรามีอะไรเป็นอะไรจะบอกลูกก่อน สองใครจะเข้ามาต้องผ่านลูกก่อน ลูกจะเป็นตัวสกรีนทั้งหมดเพราะเขาบริสุทธิ์มากๆ
สถานะของคู่เราคือยังไง ?
เราว่าที่คนอยากรู้เพราะว่าประหลาดมากนั่นแหละ (หัวเราะ) เคยมีเพื่อนๆ แซวๆ กันว่าเป็นทอมเกย์ คุณจอมเป็นทอม เราไม่ใช่ทอม เราเป็นเลสคิง อีกนิดเดียวเป็นทอมแล้ว นึกออกไหม ทอมมีลักษณะคือมีหัวใจเป็นผู้ชายมาก คือรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายแหละ แต่เรามีนิสัยเป็นผู้ชาย แต่เรารู้ว่าเราเป็นผู้หญิง มันเลยใกล้กันมา คนก็เลยงงกันอยู่ ใครจะงงก็เรื่องของคุณ เพราะปกติแล้วก็แค่ผู้หญิงกับผู้หญิง คือคุณจอมไม่มีอวัยวะเพศผู้ชาย (หัวเราะ) เราเป็นผู้หญิงทั้งคู่ก็คือเลสเบี้ยนนั่นแหละ
คาดหวังกับความรักครั้งนี้ยังไง ?
คาดทำไม ไม่ต้องคาดจะแต่งแล้ว เราว่าความเป็นเพื่อนสำคัญสุด ถ้ารักกันแล้วไม่มีความเป็นเพื่อน มีแต่ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ มันจบตั้งแต่แรกแล้ว เพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร มันมีแต่ความเข้าใจและความอยากอยู่ดูแลกันและกัน ตัวเรามีให้เขา และเราเชื่อว่าเขามี ถึงแม้ว่าต่อไปข้างหน้ามีอุบัติเหตุอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเขาไปเจอคนที่ดีกว่าเรา เราก็ยินดี เพราะเราเห็นเขามีความสุขเราก็ดีใจ ส่วนของเราจะไปมีใหม่มันก็เรื่องของเรา
ธีมงานแต่งเป็นยังไง ?
เราจะเอาดิสโก้มาให้พวกคุณ ไม่ได้เชิญทุกคนนะ(หัวเราะ) เดี๋ยวจะเอายุค 80 มาให้เต้นกัน แล้วกลางวันก่อนพระอาทิตย์ตก เราเป็นคริสเตียนทั้งคู่ พิธีของเราสำคัญอยู่ตรงนี้เท่านั้นเอง เราจะมีคนที่มีความเคร่งศาสนาสามารถเป็นบาทหลวงให้เราได้ เพราะเราเป็นเพศที่สามตามหลักศาสนามันไม่ถูกอยู่แล้ว เราก็ทำพิธีเองโดยการที่ไปหาคนที่เขาสวดบ่อยๆ เอามาเป็นบาทหลวงให้ มีตอนนี้ออกสัญญาประชาคมแล้วนะ พี่เป้ ไฮร็อก จะมาเป็นบาทหลวงให้ ทำไมถึงเป็นพี่เป้ พี่เป้บอกว่าเป็นได้ เพราะพี่เป้เป็นอิสลาม คือศาสนาคริสต์มีรากมาจากศาสนาอิสลาม ดังนั้นพี่เป้สามารถเป็นบาทหลวงให้เราได้ ความสำคัญของมันก็คือคนสองคนกำลังจะผูกดวงวิญญาณกัน แล้วให้อีกคนๆ หนึ่งซึ่งลิงก์กับพระเจ้าบ่อยๆ ได้ทำการทำพิธีเพื่อให้พระเจ้ามองเห็นว่าคนสองคนนี้เขาจะมีวิญญาณเดียวกันแล้วนะ จะเอาดวงวิญญาณมาแชร์กันแล้วจะส่งถึงพระเจ้า
