พปชร.จ่อเอาคืน 32 ส.ส.ฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อ

2019-06-26 22:20:45

พปชร.จ่อเอาคืน 32 ส.ส.ฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อ

Advertisement

พปชร.จ่อเอาคืน 32 ส.ส.ฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อ แฉมีระดับหัวหน้าพรรคถือหุ้น ทำสื่อจริง กำชับ 21 ส.ส. รวบรวมเอกสาร งบดุลบริษัทแจงศาล รธน.

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมต่อสู้คดีกรณี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ถูกร้องถือครองหุ้นและเป็นเจ้าของกิจการสื่อ แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง 32 ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ถือครองหุ้นและเป็นเจ้าของกิจการสื่อ ว่า จากนี้จะให้ ส.ส. 21 คน ของ พปชร. ทำการรวบรวมเอกสาร โดยเฉพาะในส่วนของงบดุลของบริษัทเพื่อมาพิจารณา เพราะได้เห็นแล้วว่าศาลรับฟังข้อเท็จจริง ทั้งจากที่รับคำร้อง 21 คน และไม่รับคำร้อง จำนวน 6 คน ของพรรค พปชร. ทำให้เห็นสิ่งที่เราจะต้องดำเนินการต่อไป เพื่อทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏ ให้ศาลเห็นได้มากที่สุดว่า ในส่วนของ ส.ส.ของ พปชร. ไม่มีการประกอบกิจการตามมาตรา 98 (3) จากนั้นต้องทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเชื่อว่า ส.ส.ทั้ง 21คนของ พปชร.ไม่ได้ถือครองหุ้นสื่อ และคงต้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญนำคำพิพากษาของศาลฎีกา 2 คดีก่อนหน้านี้ มาเปรียบเทียบว่า คดีดังกล่าวกับคดีของเราเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และขอคัดสำนวนของศาลฎีกาที่ส่งมาศาลรัฐธรรมนูญเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างว่า ทั้ง 2 คดีไม่เหมือนของทั้ง 21คน ที่ศาลรับคำร้อง อย่างไรก็ดี ต้องกราบขอบคุณศาลที่ให้โอกาส ส.ส.ของ พปชร.และฝ่ายรัฐบาลได้ทำหน้าที่ต่อ ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถือว่าได้ให้โอกาสที่ให้เรายื่นหลักฐาน

นายทศพล กล่าวว่า ส่วนของ พปชร.จะยื่นฟ้อง ส.ส. 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้านนั้น จากผลของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา ทางทีมทนายต้องมาปรับกลยุทธ์ เพราะจากศาลมีคำสั่งไม่รับพิจารณาบางราย ทำให้เราต้องตัดส.ส.ที่เข้าข่ายเดียวกันออกไป ทำให้การตรวจสอบจากเดิม 55 คน เหลือ 32 คน ที่เข้าข่าย เพราะบางคนพบว่า ประกอบธุรกิจสื่อมวลชนจริง โดยในจำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นของพรรคเพื่อไทย รวมถึงระดับหัวหน้าพรรค จึงเป็นเหตุผลที่ตนตัดสินใจไม่บอกก่อนหน้านี้ว่าเป็นใครบ้าง เพื่อต้องการให้การทำงานรอบคอบ ให้ศาลพิจารณาง่ายขึ้น ทั้งนี้จะใช้วิธีการเดียวกันคือยื่นผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แต่จะไม่ยื่นคำร้องขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยจะนำรายชื่อทั้ง 32 คน รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก่อนไปยื่นต่อประธานสภาฯ คาดว่า จะยื่นอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า