“ใหญ่ ฝันดี” เผยประสบการณ์ขนหัวลุก เจอผีตามหลังทำงานอาสา !!

2019-06-26 14:20:51

“ใหญ่ ฝันดี” เผยประสบการณ์ขนหัวลุก เจอผีตามหลังทำงานอาสา !!

Advertisement

ยิ่งต่อต้าน ยิงเห็น “ใหญ่ ฝันดี” เปิดใจเล่าเรื่องชวนขนหัวลุก เห็นสิ่งลี้ลับ จนผันตัวมาเป็นอาสาช่วยสังคม ดันเจอผีตาม !!

เป็นอีกหนึ่งคนที่เรียกว่าอยู่กับสิ่งลี้ลับมาเกือบทั้งชีวิตเลยก็ได้ สำหรับนักร้องและนักแสดงรุ่นเก๋า “ใหญ่ ฝันดี” ที่ตอนนี้กลายเป็นคุณพ่อลูกสอง แถมลูกสาว “จินนี่ จุฑาภัค” ก็ยังสวยไม่แพ้ดาราในวงการเลย




ล่าสุด ใหญ่ก็ได้ควงลูกสาวมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ชวนขนหัวลุก ที่เจ้าตัวประสบพบเจอมาตั้งแต่เด็ก ตลอดจนไปทำงานเป็นอาสาช่วยเหลือสังคม ผ่านทางรายการ “คุยแซ่บ SHOW” ว่า…

เห็นบอกว่าที่บ้านเลี้ยงลูกชิลมาก ชิลเบอร์ไหน ?

ฝันดี : ก็เลี้ยงแบบสบายๆ เราในฐานะพ่อก็คุ้มครองให้เขาปลอดภัย แต่ในส่วนที่เขาจะใช้ชีวิตแบบไหนมันเป็นสไตล์ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เรานึกถึงเรา เราเป็นคนยังไง ดีเอ็นเอเขาได้รับแบบนั้นแน่นอน อยากจะไปกิน อยากจะไปเที่ยวก็ไป แต่ว่ามันจะมีข้อแม้บางอย่าง ถ้ามันเกี่ยวกับเรื่องเงิน เรื่องทอง เขายังเรียนอยู่ เขายังไม่ได้ทำงาน การที่เขาจะซื้อของอะไรมันต้องมีคำตอบให้กับเรา

จินนี่ : เอาจริงๆ มันไม่ได้เยอะอย่างที่ป๊าเล่า ก็คือถ้าเราอยากได้อะไรก็ต้องไปหาข้อมูลมาว่ามันดียังไง คุ้มไหม เราไปใช้อะไรยัง






อย่างนี้ไปเที่ยวกลางคืนได้ไหม ?

ฝันดี : ไปได้ ไม่มีปัญหา ไม่ต้องมีพ่อ แม่ไป แต่ตอนที่เขาอายุ 16-17 ปี มันอาจจะมีที่เราจะต้องไปดู ไปรอในรถ

จินนี่ : เที่ยวกลางคืนไม่ได้ไปเที่ยวผับอะไรนะคะ แต่เป็นคอนเสิร์ตอะไรแบบนี้






ห่วงไหมถ้ามีคนมาจีบลูก ?

ฝันดี : ในฐานะเป็นพ่อเราก็ต้องเป็นห่วง แล้วก็หวงอยู่แล้วในส่วนหนึ่ง แต่เราก็คิดว่าเราจะหวงและห่วงเขาได้ขนาดไหนในความเป็นพ่อแม่ เพราะว่าวันนึงเขาจะมีจุดของเขาที่ก้าวผ่าน ถ้าเรายิ่งห้ามเดี๋ยวมันจะเสียหาย ดังนั้นความสุขของลูกที่ไม่ทำให้เขาเดือดร้อนและไม่ทำให้เราต้องทุกข์ใจตามสบาย

แล้วมีหนุ่มมาจีบหรือยัง ?

จินนี่ : ก็มีบ้าง




มาที่เรื่องลี้ลับกันบ้าง คุณใหญ่เห็นตั้งแต่เด็กเลยหรอ ?

ฝันดี : ใช่เห็นตั้งแต่เด็ก สักประมาณ 8 - 9 ขวบ อย่างเช่น เราเห็นคนแต่ทำไมมันเดินเข้าไปในกำแพง แล้วหลังจากนั้นเราก็อยากลอง อยากรู้ อ่านหนังสือดูว่าวิธีการเห็นผีเขาทำยังไง งานเช็งเม้งเขาบอกว่าให้ลอดหว่างขาดูโต๊ะที่กินข้าวบรรพบุรุษ เราก็เห็นจริงๆ เห็นอาม่านั่งกินข้าว แล้วเราก็เห็นคนแบกโรงศพจีน เราก็ก้มดู แล้วเราก็เห็นมีคนขี่โลงอะไรอย่างนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ผี แต่เป็นคนที่คุมผี

แล้วหลังจากนั้นเราก็เห็นเรื่อยๆ จนไม่ไหวล่ะ พออายุ 15 ปี เริ่มเข้าวงการ เราก็บอกว่าไม่อยากเห็น มันก็เหมือนเว้นไปก่อน มันก็ผ่านไปสักอายุ 25 ปี เราก็กลับมาเห็นอีก ตอนนั้นเราออกเทปด้วย ทีนี้เห็นหนักเลย ได้ยินเสียง เห็นภาพ เวลาขับรถก็เห็นผู้หญิงทำไมยืนอยู่ข้างถนนคอหัก หรือว่าแขนหลุด แต่เราไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เพราะทำไมต้องเล่าให้คนอื่นฟัง แล้วมันเหมือนเราเป็นคนบ้า เราก็ขอ ตั้งจิตว่าจะไม่ขอเห็นอีก

แต่พอ 35 ปี มันเริ่มเห็นมากขึ้น เห็นถึงความเป็นไป เห็นถึงคน เห็นถึงอะไร แต่เราคิดอยู่เสมอว่าสิ่งที่เราเห็นทั้งหมดเนี่ยมันเป็นลักษณะเหมือนคิดไปเอง เพ้อ ดังนั้นมันไม่มีจริง แต่สิ่งที่มันกลับมา มันคือการทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งพวกนี้มีจริง






ยิ่งต่อต้าน ยิ่งเห็น ?

ฝันดี : ใช่ แล้วก็จะทำโทษเราหลายๆ อย่าง คือถ้าสมมติว่าเราเห็นคนนี้ยืนอยู่กำลังมีปัญญา มีคนยื่นอยู่ข้างๆ ซึ่งเป็นผีหรือเป็นอะไรก็ตาม แล้วไม่พูด แล้วเดินหนีแล้วนั่นจะกลับมาหาเราว่าทำไมเราไม่บอก แล้วจากนั้นจะทำให้เราเจ็บ ป่วย

อย่างนี้เราต้องทำบุญด้วยไหม ?

ฝันดี : เลยต้องมาอยู่ในชีวิตของการทำบุญตลอด มันคือข้อแลกเปลี่ยนที่เราไม่ต้องการ ไม่ต้องการให้เห็นแบบนี้ โดยการแลกเปลี่ยนด้วยการเป็นจิตอาสา และการช่วยคนแทน




ทั้งๆ ที่กลัวแล้วไปทำจิตอาสา ไม่เจอหนักกว่าเดิมหรอ ?

ฝันดี : เราไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากอยากเจอ แต่เรื่องพวกนี้มันคนละโลกกัน

หรือกลัวคนมาว่าเราบ้า ?

ฝันดี : ใช่ด้วย แล้วเราก็เป็นดารา แล้วเราก็มีสิ่งต่างๆ ที่เราทำได้เองอยู่แล้ว แต่มันมีคำพูดนึงที่มันตอกมาว่าที่มึงมีอย่างนี้ได้ ก็เพราะว่ากูเลี้ยงมึงมา แต่ว่าเขาไม่ได้พูดไม่เพราะนะ แต่เราแค่พูดภาษาง่ายๆ คือชุบเลี้ยงมาไม่ให้เป็นแบบกะเลวกะลาด เพื่อให้เป็นสิ่งนี้ เพื่อคงไว้ เพื่อให้เขาได้ใช้เราในการนำพา




แล้วเวลาไปเป็นกู้ภัยมันมีเคสอะไรที่เราได้ช่วยแบบจะๆ ไหม ?

ฝันดี : อันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุไม่เกี่ยวกับผี แต่มันสามารถเสริมบุญให้กับตัวเรา เพื่อจะไปต่อบุญได้

เห็นว่ามีอยู่เคสนึงหยุดหายใจแล้ว แล้วพี่ใช้วิธีตบหัวเขาแล้วฟื้น ?

ฝันดี : คืออันนั้นเราอยากรู้ว่าเป็นยังไง คือเขาชนแล้วเขาตาย เมียเขาบอกว่าทำยังไงก็ได้ช่วยเขาหน่อย ให้เขาฟื้น แล้วพี่ที่ไปด้วยที่อยู่ในอาสาสมัคร เขาก็ถามชื่ออะไร พอบอกชื่อว่าปุ๊บก็ตบหน้าเราก็เอาขึ้นรถ เขาสะอึกตาเหลือกขึ้นมา หลังจากตายไป 3 นาที เราก็คุยกับเขา ถามเขาว่าคุณเป็นอะไรตอนนั้น เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร แต่เขารู้สึกว่ามันเหมือนมีเหตุการณ์รถชนแล้วเขาไปยืนดูอยู่ แล้วเขาไม่รู้ว่าหน้าคนนี้เป็นใคร ก็ดูด้วยความตื่นเต้น แล้วเห็นผู้หญิงร้องไห้ เราก็ถามว่าแล้วคุณกลับมาได้ยังไง เขาก็บอกว่ามีคนเรียกชื่อเขาก็เลยหันแล้วก็ตาเหลือกขึ้นมา






แล้วมีอีกเคสที่เราไปช่วย แล้วเขาเป็นเหมือนตรวจ แต่เราไม่รู้ เขาก็เสียชีวิตบนรถเราที่ตัวเรา แล้วเราไปไหนก็มีน้อง มีเพื่อนทัก ว่าเดี๋ยวนี้ไปไหนก็มีตำรวจคอยดูแลหรอ พูดคนแรกไม่เท่าไหร่ อีกอาทิตย์มีคนพูดอีกเราเลยนึกออกเลย เรายกมือไหว้ไม่ต้องมาตาม ไม่ต้องมาปกป้อง มาอะไรทั้งสิ้น ให้ไปเกิดในสิ่งนั้นเถิด

ไม่ใช่แค่ข้างนอก ในบ้านเราก็เห็น พี่เห็น ลูกเห็น ?

ฝันดี : ใหญ่เป็นคนชอบนั่งสมาธิ เรานั่งแล้วเรารู้สึกสบาย พอมีอยู่วันนึงวันนี้เป็นวันที่ดี เราก็นั่งสมาธิอยู่กลางบ้าน แล้วเราได้ยินเสียงลูกแต่ไม่รู้ว่าคนไหนเหมือนวิ่งมาแล้ววิ่งหนีขึ้นไปเลย เราก็ลืมตาแล้วมองไปที่บันไดก็ไม่เห็นใคร แล้วสักพักเห็นจินนี่วิ่งลงมา เขาก็ถามว่าป๊านั่งสมาธิบนหรมหรอ เราก็บอกว่าไม่นะ ป๊านั่งบนพื้น




แล้วผีคิตตี้คืออะไร ?

จินนี่ : หนูน่าจะประมาณ 2 - 3 ขวบ ที่ป๊ากับแม่เล่ามา คือป๊ากับแม่นอนอยู่บนเตียง สักพักแม่ได้ยินเสียงเหมือนหุ่นยนต์วิ่ง แม่ก็ตื่นมาเห็นคิตตี้เดินหมุนอยู่แล้วก็สะกิดป๊า

ฝันดี : มันเป็นหุ่นเติมลม เราก็มองปลายเตียงมันหันหลังให้เราสุดปลายเลยนะ เราก็เห้ย มันเป็นอะไร มันชอตหรือเปล่า มันก็หันหน้ากลับมาแล้วก็วิ่งมาหา ชนปลายเตียง พี่ก็กระโดดเตะแตกกระจาย พอเปิดไฟมาดูเราก็คิดว่ารีโมทมันค้าง แต่รีโมทอยู่ชั้น1 แล้วไอ้ตัวนี้ไม่มีถ่าน เราก็เอาไปทิ้งกลัวมันตามลูก 








ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @fundee.j