ส.ส.หญิง พปชร.ผลักดันสตรีมีบทบาทพัฒนาสังคม

2019-06-23 19:20:02

ส.ส.หญิง พปชร.ผลักดันสตรีมีบทบาทพัฒนาสังคม

Advertisement

ส.ส.หญิงพลังประชารัฐร่วมสัมมนา "นักการเมืองหญิงผู้นำการเปลี่ยนแปลง”เดินหน้าทำการเมืองสร้างสรรค์ ร่วมกับทุกพรรค ผลักดันให้สตรีมีบทบาทในการพัฒนาสังคมและการเมืองมากขึ้น ชี้หญิงชายเท่าเทียมวัดกันที่ผลงานในสภา


เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม เขตบางซื่อ-ดุสิต และประธานคณะกรรมการด้านนโยบายสตรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย น.ส. วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส. บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.หญิงของพรรค รวม 7 คน ประกอบด้วย นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ และ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อ“นักการเมืองหญิงผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนาสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯสถาบันพระปกเกล้า และ International Republican Institute (IRI) เพื่อ เสริมพลังให้ ส.ส. สตรีรุ่นใหม่ ได้พัฒนาและแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างมืออาชีพ


น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า สนใจและนำเสนอประเด็นความปลอดภัยสตรี จึงได้มีโอกาสร่วมปรึกษาหารือและทำงานกับองค์กรภาครัฐและประชาสังคมด้านสตรีมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือ สร้างเครือข่าย ระหว่าง ส.ส.สตรีรุ่นใหม่ และภาคประชาสังคมต่างๆ เพื่อผลักดันนโยบายและกฎหมายที่จะช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาผู้หญิงไปข้างหน้า โดยเฉาะการให้องค์ความรู้ สร้างความเข้าถึงเข้าใจ เพื่อที่ผู้หญิงทุกคนจะดูแลตนเองและได้รับการดูแลจากภาครัฐได้อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย และในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่ได้ ส.ส.หญิงเข้าสู่สภาฯมากที่สุด จำนวน 23 คน รวมถึงให้ความสำคัญกับนโยบายด้านสตรี มีคณะทำงานรับผิดชอบโดยตรงซึ่งตนนั่งเป็นประธานอยู่ จึงขอยืนยันว่า จะเป็นแกนนำในการทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ร่วมมือกับ ส.ส.สตรีจากพรรคอื่นๆ สร้างความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ด้านนโยบายเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนเตรียมความพร้อมสำหรับบทบาทของการมีส่วนร่วมในฐานะ ส.ส. สตรี ที่จะยืนหยัดเป็นผู้นำขับเคลื่อนพัฒนาสังคมส่งต่อสู่รุ่นต่อไป


ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า  สังคมปัจจุบันเปิดกว้างทางความคิด เรื่องเพศไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเข้ามาทำงานด้านการเมือง เพราะสุดท้ายวัดกันที่ผลของงาน มากกว่าจะมาตัดสินเรื่องเพศ ส่วนตัวตั้งใจเข้ามาทำงานการเมือง เพื่อเปลี่ยนแปลงและแก้ปัญหาต่างๆของประเทศ ทั้งความขัดแย้งทางการเมือง และปัญหาปากท้องประชาชน นำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า แต่ทั้งนี้ ก็อยากให้ผู้หญิงวางตัวให้ดี มีบุคลิก เพราะพฤติกรรมเดียวกันกับผู้ชาย ผู้หญิงจะถูกตำหนิมากกว่า เพราะถูกคาดหวังจากสังคมดังนั้นการทำหน้าที่ในสภาของผู้หญิงก็อาจจำเป็นต้องคำนึงถึงจุดนี้ ที่สำคัญการแสดงออกต้องน่านับถือ ต้องแข่งกันทำงานเพื่อประชาชน