สหรัฐเดินหน้าบีบอิหร่านอย่างหนัก คว่ำบาตรรุนแรงครั้งใหม่

2019-06-23 11:05:40

สหรัฐเดินหน้าบีบอิหร่านอย่างหนัก คว่ำบาตรรุนแรงครั้งใหม่

Advertisement

จับตาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ยังคงดุเดือด ล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่านที่หนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้น มีผลบังคับใช้ทันทีในวันจันทร์นี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า เขาจะใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน แต่ก็บอกวา เขาต้องการทำข้อตกลงเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของอิหร่านที่กำลังย่ำแย่ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดหลังอิหร่านยิงอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนสอดแนม “โกลบอล ฮอว์ก” ของสหรัฐตกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สหรัฐบอกว่าเกิดขึ้นในน่านฟ้าสากล และทรัมป์ กล่าวในเวลาต่อมาว่า เขาได้ยกเลิกการปฏิบัติการทางทหารเพื่อแก้แค้นอิหราน เพราะอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 150 คน ขณะที่ อิหร่านก็ย้ำอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ว่า โดรนถูกสอยเหนือดินแดนของอิหร่าน และบอกว่าจะตอบโต้อย่างถึงพริกถึงขิงต่อภัยคุกคามจากสหรัฐ

ทรัมป์ ซึ่งกล่าวในกรุงวอชิงตันเมื่อวันเสาร์ ก่อนมุ่งหน้าไปยังบ้านพักประธานาธิบดี ที่แคมป์ เดวิด ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังใช้แนวทางทางการทูตเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่ออิหรานด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจครั้งใหม่




“ทางเลือกใช้ปฏิบัติการทางทหารวางอยู่บนโต๊ะเสมอ” ประธานาธิบดีทรัมป์ แถลง แต่เขาก็กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเปิดกว้างที่จะบรรลุข้อตกลงกับอิหร่าน ซึ่งเขาบอกว่าจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอิหร่าน และระบุว่า จะทำให้อิหร่านกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

ในเวลต่อมา ทรัมป์ก็เขียนทวิตเตอร์จากแคมป์ เดวิด ว่า สหรัฐจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่ออิหร่านในวันจันทร์นี้ แต่ก็บอกว่า เขารอวันที่อิหร่านหลุดพ้นจากมาตรการคว่ำบาตร และพวกเขาจะกลายเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์และมั่งคั่งอีกครั้ง



ทั้งนี้ รัฐบาลของทรัมป์ พยายามใช้การประนีประนอมในการรื้อฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายนโยบายต่างประเทศที่ยุ่งยากอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งกระบวนการสันติภาพอิสราเอลและปาเลสไตน์ แต่ทั้งทรัมป์และเตหะราน ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่ต้องการแสดวงหาสงคราม ขณะที่อิหร่านก็เตือนว่าจะตอบโต้อย่างรุนแรง หากถูกโจมตี

อับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กล่าวกับสำนักข่าวกึ่งทางการ ทัสนิม เมื่อวันเสาร์ว่า ไม่ว่าสหรัฐจะตัดสินใจอย่างไร อิหร่านจะไม่ยอมให้พรมแดนถูกละเมิด อิหร่านจะเผชิญหน้ากับการรุกราน หรือภัยคุกคามจากอเมริกาอย่างมั่นคง ขณะที่ พลจัตวา อามีราลี ฮาจีซาเดห์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติ กล่าวว่า หากมีการละเมิดพรมแดนซ้ำซาก อิหร่านก็จะตอบโต้ทุกครั้งเช่นกัน

ส่วนสำนักข่าวฟาร์ส รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศอิหร่าน เรียกตัวเจ้าหน้าที่ทูตคนหนึ่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เข้าพบเมื่อวันเสาร์ เพราะยูเออีอนุญาตให้ฐานทัพสหรัฐที่ประจำอยู่ในยูเออี ปล่อยโดรนลำดังกล่าว ส่วนนายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เผยแพร่แผนที่ผ่านทวิตเตอร์ พร้อมรายละเอียดของพิกัด ที่แสดงให้เห็นโดรนลำกำลังบินอยู่เหนือน่านน้ำในดินแดนของอิหร่าน



ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเมื่อวันเสาร์ว่า สหรัฐได้แสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์คลายข้อสงสัยว่า โดรนอยู่ในน่านสากล นอกจากนี้ เขายังปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า กองทัพสหรัฐจะอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากฐานทัพสหรัฐในอิรัก ประเทศเพื่อนบ้านของอิหร่าน กรณีที่แหล่งข่าวในกองทัพบอกว่า อาจเกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคง

ความตึงเครียดในภูมิภาคเริ่มเลวร้ายลงอย่างมาก เมื่อทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2558 ระหว่างอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจ และกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรเล่นงานอิหร่านอีกครั้ง หลังจากมาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิกไปภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เพื่อแลกกับการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

สหรัฐและซาอุดีอาระเบีย คู่แข่งสำคัญของอิหร่าน ยังได้ประณามอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในอ่าวโอมานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเรือบรรทุกน้ำมัน 4 ลำนอกชายฝั่งยูเออีเมื่อวันที่ 12 พฤศภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นใกล้ช่องแคบยุทธศาสตร์ ฮอร์มุซ เส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญของโลก แต่อิหร่านปฏิเสธความเกี่ยวข้องในทั้ง 2 เหตุการณ์

ขณะเดียกวัน ยะฮู นิวส์ รายงานอ้างคำกล่าวของอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้เปิดฉากโจมตีไซเบอร์ที่วางแผนมานาน ตอบโต้เหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน ขณะที่วอชิงตัน โพสต์ รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า การโจมตีไซเบอร์ดังกล่าว เพื่อทำลายระบบยิงขีปนาวุธของอิหร่านเสียหาย อย่างไรก็ตาม โฆษกหญิงของกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดถึงปฏิบัติการทางไซเบอร์, ข่าวกรอง หรือแผนการใด ๆ



ขณะที่ ประเทศมหาอำนาจโลกเรียกร้องให้อยู่ในความสงบและส่งเจ้าหน้าที่ทูตเพื่อเจรจาพยายามลดอุณหภูมิความขัดแย้ง ซึ่งผลักดันให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง โดยนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องเมื่อวันเสาร์ให้แก้ปัญหาทางการเมืองในวิกฤตดังกล่าว เช่นเดียวกับกระทรวงตางประเทศของอังกฤษ แถลงว่า แอนดรูว์ เมอร์ริสัน รัฐมนตรีตะวันออกกลาง จะเดินทางเยือนกรุงเตหะรานในวันอาทิตย์นี้ เพื่อหยิบยกความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมของอิหร่านในภูมิภาค และภัยคุกคามของอิหร่านที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ ทั้งนี้ อิหร่านขู่ละเมิดข้อตกลงดังกล่าว หากประเทศยุโรปที่ลงนามในช้อตกลง ล้มเหลวในการกอบกู้ข้อตกลงเพื่อปกป้องอิหร่านไม่ให้ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ

นายมูเซวี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า ยุโรปจะมีเวลาภายในวันที่ 8 กรกฏาคมนี้ เพื่อรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยเขาอ้างถึงกำหนดเส้นตายของอิหร่าน 60 วันที่เตหะรานประกาศไปในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ สำนักงานบริหารการบินพลเรือนของสหรัฐ หรือเอฟเอเอ ก็ประกาศห้ามสายการบินสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี ไม่ให้บินผ่านน่านฟ้าของอิหร่าน เหนือช่องแคบฮอร์มุซ และอ่าวโอมาน สายการบินหลายสายของซาอุดีอาระเบีย ก็เข้าร่วมกับสายการบินนานาชาติอื่น ๆ เมื่อวันเสาร์ งดบินเข้าพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน แต่อิหร่านก็ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า น่านฟ้าของอิหร่าน “ปลอดภัยและไว้ใจได้” สำหรับเครื่องบินทุกลำที่บินผ่าน