ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากันระหว่างอิหร่านและสหรัฐ ร้อนระอุขึ้น แม้ว่าทรัมป์จะบอกว่า เขาไม่ได้กระหายที่จะเข้าสู่สงครามกับอิหร่าน ด้านอิหร่านก็ระบุเช่นกันว่า ไม่ต้องการสงคราม แต่ก็เตือนว่าจะตอบโต้อย่างถึงพริกถึงขิง หากถูกโจมตี
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงว่า เขาไม่ต้องการสงคราม แต่ก็เตือนอิหร่านว่า จะพบกับ “หายนะ” หากความขัดแย้งปะทุขึ้น โดยทรัมป์ ซึ่งให้สัมภาษณ์เอ็นบีซี เมื่อวันศุกร์ กล่าวว่า เขาเปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่จะไม่ยอมให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างเด็ดขาด ก่อนหน้านี้ เขาได้ตัดสินใจในนาทีสุดท้ายเพื่อยกเลิกแผนการโจมตีตอบโต้กรณีอิหร่านยิงอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนของกองทัพสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยอ้างว่า เขาได้รับแจ้งว่าจะมีชาวอิหรานเสียชีวิต 150 คน ในการโจมตีครั้งนี้ “ผมไม่ต้องการเช่นนั้น ผมไม่คิดว่า มันเทียบกันได้” เขากล่าว
ทางการเตหะราน กล่าวว่า อากาศยานไร้คนขับของสหรัฐ บินรุกล้ำน่านฟ้าของอิหร่านในช่วงเช้าตรู่วันพฤหัสบดี ส่วนสหรัฐยังยืนกรานว่า โดรนถูกยิงในน่านฟ้าสากล
ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศศัตรูยาวนานบานปลาย โดยเมื่อไม่กี่วันมานี้ สหรัฐกล่าวหาอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ขณะที่อิหร่านประกาศว่าปริมาณยูเรเนียมเสริมสมรรถนะจะเกินเกณฑ์ 300 กิโลกรัม ตามที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ( ไอเออีเอ ) กำหนดไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ ฉบับปี 2558 แล้ว
เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐถอนตัวแต่เพียงฝ่ายเดียว ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ฉบับปี 2558 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดยั้งกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ขณะนี้ สหรัฐร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ จัดการประชุมกันในวันจันทร์นี้ เพื่อหารือเรื่องอิหร่าน
ด้านรัฐบาลอิหร่าน ก็ออกมาแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า อิหร่านจะตอบโต้อย่างหนักหน่วงต่อภัยคุกคามของสหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เกิดขึ้น โดยนายอับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวทัสนิม ของอิหร่านว่า ไม่ได้ใส่ใจถึงการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่สหรัฐว่าจะเป็นอย่างไร แต่อิหร่านจะไม่ยอมให้พรมแดนของประเทศถูกล่วงละเมิด อิหร่านจะเผชิญหน้ากับการรุกรานหรือภัยคุกคามจากอเมริกา