จับบิ๊กลอตยาเสพติดสูตรใหม่ “ไอซ์ผสมยาเค”หนัก 105.9 กก. มูลค่ากว่า 600 ล้าน คาดพัฒนาสูตรตีตลาดของเดิม
เมื่อเวลา 10.50 น.วันที่ 21 มิ.ย. พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายภาณุวัฒน์ หรือวัฒน์ ยานุมาศภูษิต อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ที่ 13 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนัก 105.9 กก. มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ผพ 3787 เชียงใหม่ นำตัวดำเนินคดีข้อหา"มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย"
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากในอดีตนายภาณุวัฒน์ นั้นมีประวัติเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ต่อมาถูกเพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายภาณุวัฒน์ มาทำงานเป็นคนเฝ้าสวนลำใย ในพื้นที่ จ.ลำพูน แต่นายภาณุวัฒน์ ก็มีพฤติกรรมขับรถไปเชียงรายอยู่ทุกอาทิตย์ ทางเจ้าหน้าที่จึงติดตามเฝ้าดูต่อเนื่องจนพบนายภาณุวัฒน์ ขับรถของกลางไปที่อ.แม่แตง และขับหลบเลี่ยงด่านตรวจเข้าตามหมู่บ้านต่างๆ และตรงไปยัง จ.ลำพูน จนมาถึงที่บริเวณถนนซูปเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง-เชียงใหม่ หมู่ที่10 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจ ขับรถปาดหน้าให้รถหยุดเพื่อขอตรวจค้น โดยจากการตรวจค้นภายในรถทั้งบริเวณเบาะหลังคนขับ และบริเวณหลังกระบะ ก็พบกระเป๋าเป๋จำนวน 6 ใบใหญ่ข้างในซุกซ่อนยาไอซ์จำนวน 105.9 กก.จึงได้จับกุมตัวไว้
จากการสอบสวนนายภาณุวัฒน์ ให้การรับว่า ยาเสพติดเป็นของนายเยีย และนายเปา ให้ตนนำรถยนต์ไปรับยาเสพติดที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งนายเยีย และนายเปา นำยามาจาก จ.เชียงรายให้ตนไปรับของเพื่อที่จะนำยาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ที่ที่พักของตนเอง บริเวณบ้านหนองไซ ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ก่อนจะรับคำสั่งต่อไปว่าจะไปส่งของที่ไหน โดยตนจะได้รับค่าจ้างจำนวน 300,000 บาทซึ่งพึ่งทำครั้งแรก
พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่าการจับกุมครั้งนี้ทางตำรวจไม่ปักใจว่าผู้ต้องหาทำครั้งแรก เพราะเราติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมผู้ต้องหามาโดยตลอดก็พบว่ามักไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้ายาชายแดน จนเรามาจับกุมตัวได้พร้อมของกลางเชื่อว่าลักลอบขนส่งมาแล้วหลายครั้ง โดยปลายทางอยู่ที่กรุงเทพ และภาคอื่นๆ และของกลางบ้างส่วนน่าจะนำส่งออกไปยังประเทศที่ 3 เพราะจากหีบห่อที่บรรจุยาถูกจัดทำไว้สองแบบคือแบบเขียวเงิน และแบบเขียวทอง แบบเขียวเงิน น่าจะถูกส่งไปประเทศแถบยุโรป และอเมริกา แบบสีเขียวทอง น่าจะถูกจัดส่งไปไต้หวันและประเทศแถบเอเซีย โดยยาที่จับได้ลอตนี้ถือเป็นครั้งแรกเพราะตัวอย่างมีการอัพเกรดให้ทันสมัยกว่าเดิม ต่างจากยาที่เคยจับได้ทุกครั้งก่อนหน้านี้ โดยยาลอตนนี้เราใช้ชุดตรวจเคตามีน และชุดตรวจยาไอซ์ ก็แสดงผลทั้งคู่
จากข้อสรุปของ ป.ป.ส. ตัวยาลอตนนี้มีการผสมยาไอซ์ และยาเค เข้าด้วยกันเป็นสูตรใหม่ โดยยาเค ปกติใช้ดม หรือใส่เหล้า ยาไอซ์ ใช้รมควันและสูดดม เป็นที่นิยมมากสำหรับนักเที่ยวกลางคืน โดยปกตินักเที่ยวทั่วไปที่นิยมอัพยา จะใช้ยาไอซ์ จากนั้นก็ต่อด้วยยาเค เพราะยาเค มีสารไปกระตุ้นการทำงานของยาไอซ์ ให้ออกฤทธิ์แรงขึ้นและออกฤทธิ์ได้นานขึ้น โดยสูตรตัวนี้น่าจะเป็นกลุ่มนักเคมีกลุ่มใหม่ ที่ขบวนการค้ายาเสพติด ว่าจ้างให้ไปพัฒนาสูตรที่โรงงานในแถบชายแดน และพึ่งนำเข้าในประเทศไทยเพื่อตีตลาดของเดิม ซึ่งยาที่เราจับได้ในครั้งนี้เราก็เตรียมส่งตรวจสอบว่าจะมีผลร้ายต่อร่างกายของคนมากกว่าเดิมแค่นั้นเพื่อศึกษา และจะได้เตือนเภทภัยของยาตัวนี้ต่อไป