นอภ.วังยาง เร่งหาตัวคนขายบัตรพลังงาน ประสาน จนท.สอบเอาผิด พบมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อ แล้ว 3 ราย หวังใช้รักษาโรค ย้ำขอให้คืนเงิน
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.ยอดชาด อ.วังยาง จ.นครพนม โดย ว่าที่ ร.ต.เอกวัฒนา คงคาน้อย นายอำเภอวังยาง จ.นครพนม ได้สั่งการให้ นายอัคเดช นาคสุวรรณ ปลัดอำเภอวังยางหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ประสานงานกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พร้อมกำชับทำความเข้าใจชาวบ้าน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ และประสานงานไปยังผู้นำชุมชนท้องถิ่น ให้ฝากประชาสัมพันธ์ไปยัง ประชาชนในพื้นที่หากตกเป็นเหยื่อให้นำหลักฐาน เข้าพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ และผู้นำชุมชน ซึ่งจะมีการรวบรวมหลักฐาน เร่งตรวจสอบหาที่มาและติดตาม บุคคลที่ชาวบ้านระบุว่าเป็นตัวแทนมาจำหน่ายให้ชาวบ้าน
ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่า มีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อจำนวน 3 ราย รายแรก คือ นางวงค์เดือน กมลเเก้ว อายุ 70 ปี ผู้เสียหาย ระบุว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้มานานหลายปี รายที่ 2 คือ นางสมภาร เเสงสุริวงค์ อายุ 50 ปี และ รายที่ 3 คือ นางฤทธิรงค์ ยะงาม อายุ 59 ปี ซึ่งมีอาการป่วย เป็นโรคปวดเมื่อยตามร่างกาย รวมถึงความดันเบาหวาน พร้อมให้ข้อมูลตรงกันว่า ทั้ง 3 ราย มีคนรู้จักมาแนะนำขายให้ในราคาใบละ 1,500 บาท อ้างว่ารักษาโรคได้ สารพัด ซึ่งนำมาแช่น้ำดื่ม รวมถึงนำมาแปะไว้ตามตัว เพื่อรักษาอาการป่วย แต่ยังไม่เห็นผล โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งสอบสวน เก็บรวบรวมหลักฐานให้กับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และตำรวจ เร่งติดตามผู้นำมาจำหน่ายที่ชาวบ้าน ระบุว่า เป็นคนในพื้นที่มาสอบสวน หากเข้าข่ายความผิดฐานหลอกลวง จะได้ให้ชาวบ้านแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอให้ บุคคลที่นำมาจำหน่าย รีบนำเงินมาคืนให้กับชาวบ้านทันที
นายอัคเดช นาคสุวรรณ ปลัดอำเภอวังยางหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า หลังทราบข่าว ได้รับคำสั่งจากนายอำเภอ ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง สสจ.นครพนม จนท.จากหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค หน่วยงานตำรวจลงพื้นที่ สอบข้อเท็จจริงชาวบ้าน ที่ตกเป็นเหยื่อ เบื้องต้นพบแล้ว 3 ราย ส่วนใหญ่สาเหตุที่ซื้อ เพราะได้รับการชักชวนจากคนรู้จัก และต้องการหายจากอาการป่วย อ้างว่ารักษาโรคได้สารพัด เชื่อว่าในพื้นที่ อ.วังยาง จะมีอีกรายหลายที่ตกเป็นเหยื่อ สำหรับแนวทางการเอาผิด ได้หารือกับ สสจ.นครพนม รวมถึง สภ.วังยาง กำลังเร่งตรวจสอบพยานหลักฐาน หากพบเข้าข่ายความผิดจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามตัวผู้นำบัตรมาขาย และขอให้มาชี้แจง คืนเงินชาวบ้านทันที หากไม่ดำเนินการ จะใช้มาตรการทางกฎหมายเอาผิด เพราะเบื้องต้นพบว่า เป็นคนในพื้นที่นำมาจำหน่าย
ด้าน นางฤทธิรงค์ ยะงาม อายุ 59 ปี ซึ่งมีอาการป่วย เป็นโรคปวดเมื่อยตามร่างกาย รวมถึงความดันเบาหวาน ระบุว่า ตนนำบัตรมาจากลูกสาวที่ซื้อมาจากคนรู้จัก เพื่อหวังมารักษาอาการป่วยของแม่ ทดลองใช้ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ทั้งแช่น้ำดื่ม นำมาแปะตามร่างกาย ตามคำแนะนำของคนรู้จัก แต่ยังไม่รู้สึกว่ามีอาการดีขึ้น แค่อยากทดลองเป็นทางเลือก เป็นความหวังต้องการหายป่วย ความดัน ปวดตามร่างกาย เพราะป่วยมานาน หลังทราบข่าวว่า เสี่ยงอันตราย รู้สึกตกใจแต่ได้ทดลองไปแล้ว หลังจากนี้ไม่กล้าดื่มน้ำจากการแช่บัตรพลังงาน รวมถึงไม่กล้านำมาแปะตามร่างกายอีก ส่วนเงินรู้สึกเสียดาย อยากได้คืน เรื่องการดำเนินคดี ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง