จับตา 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อมาตรฐานเดียว “ธนาธร”หรือไม่

2019-06-18 15:00:50

จับตา 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อมาตรฐานเดียว “ธนาธร”หรือไม่

Advertisement

“อนาคตใหม่” ชวนประชาชนจับตาครบ 7 วันหลัง “ชวน” ยื่นเรื่อง 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อให้ศาล รธน.พิจารณา เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับกรณี “ธนาธร” หรือไม่


เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่พรรคอนาคตใหม่ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และนพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ทีมรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าว โดยนายณัฐชา กล่าวถึงกรณีที่ทีม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ได้ยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และได้มีการนำเรื่องส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไปเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2562 ที่ผ่านมา ในกรณีการถือหุ้นสื่อของ 41 ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาล ที่มีลักษณะเดียวกันกับกรณีผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2 รายที่ถูก กกต.ตัดสิทธิไปก่อนหน้านี้ คือนายภูวเบศร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.สกลนคร และอดีตผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย จ.ลพบุรี สิ่งที่อยากขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันจับตามอง คือ กระบวนการที่จะเกิดขึ้น จะเป็นไปตามเงื่อนไขเวลาแบบเดียวกันกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ทาง กกต.ได้ส่งเรื่องไปทางศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2562 และศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาในวันที่ 23 พ.ค.ใช้ระยะเวลา 7 วัน ในกรณี 41 ส.ส.นี้ หากเป็นการพิจารณาคดีที่มีกระบวนการเดียวกัน เราตั้งข้อสังเกตว่าควรจะมีผลการพิจารณาคดีออกมาภายใน 7 วัน นั่นก็คือ วันที่ 19 ม.ย. 2562 เพราะฉะนั้นอยากให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนร่วมกันสังเกตการณ์ตรวจสอบการพิจารณาคดีครั้งนี้ ว่าผลการพิจารณาจะออกมาหรือไม่ ในทิศทางไหน 


นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมา คือการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส. ในช่วงที่ผ่านมา ร่วมกันลงทำงานในพื้นที่ควบคู่กันไปกับการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ ขณะที่บรรยากาศฝ่ายรัฐบาลกำลังมีการขับเคี่ยวแย่งชิงตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีต่างๆ ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ได้เดินหน้าทำงานต่อแล้วตามเจตนารมณ์ที่จะลงรับฟังปัญหาจากประชาชน เพื่อนำไปเชื่อมโยงกับการทำหน้าที่ในสภา โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีการจัดเสวนาในประเด็นปัญหาการทำประมงที่จังหวัดตราด การเปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การลงพื้นที่เสวนาเรื่องการกระจายอำนาจที่จังหวัดพิษณุโลก และการขับเคลื่อนประเด็นของ ส.ส. รวมถึง คณะทำงานของแต่ละจังหวัดตามพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ 


ด้าน นพ.วาโย กล่าวเสริม กรณี 41 ส.ส.ถือหุ้นบริษัทสื่อนั้นที่จริงแล้วพรรคอนาคตใหม่ไม่เห็นด้วยกับการใช้หนังสือบริคนสนธิในการตัดสินว่าบุคคลใดถือหุ้นสื่อหรือไม่ เพราะเป็นการผิดต่อเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมาย แต่พรรคต้องการให้ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนออกมาร่วมกันจับตาตรวจสอบว่าการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันหรือไม่