“ปิยบุตร”เปรียบ “บิ๊กตู่” เป็น “นายกฯตุหรัดตุเหร่”

“ปิยบุตร”เปรียบ “บิ๊กตู่” เป็น “นายกฯตุหรัดตุเหร่” เป็นนายกฯ แต่ทำงานไม่ได้ ชี้ถ้าอยากทำงานในตำแหน่งต้องแบ่งเค้กเก้าอี้รัฐมนตรีให้เสร็จโดยเร็ว

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “piyabutr saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล” ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุม ครม.ได้ รัฐธรรมนูญพิสดารพันลึกได้กำหนดกลไกที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจ คสช. ชนิดที่เรียกได้ว่า คนแบบ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเป็นได้ทุกอย่าง ครองอำนาจอย่างต่อเนื่องแบบไร้รอยตะเข็บ

ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ มีสองร่าง ได้แก่ หัวหน้า คสช. ซึ่งเกิดจากรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 และนายกรัฐมนตรีซึ่งเกิดจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ยามใดอยากมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็หันไปสวมร่างหัวหน้า คสช. เพื่อใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยามใดอยากเข้าเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร นั่งหัวโต๊ะในการประชุม ครม. ก็หันไปสวมร่างนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามกฎหมายตามระบบปกติ

วันที่ 9 มิ.ย. 2562 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ 2560 นับแต่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีร่างใหม่ขึ้นมา ณ ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ มีสองร่าง ร่างแรก หัวหน้า คสช. ซึ่งร่างนี้จะดับสูญลงเมื่อมี ครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 265 ร่างที่สอง นายกรัฐมนตรี ตามกระบวนการได้มาตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 มาตรา 159 และมาตรา 172

ส่วนร่างเดิม คือ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ครองไว้ตั้งแต่ 24 ส.ค. 2557 นั้น ย่อมสิ้นสุดลงเมื่อมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถครองตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนเดิม และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้พร้อมๆ กัน พระบรมราชโองการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ได้ทับแทนที่ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนหน้านั้นไปแล้ว

หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และนั่งหัวโต๊ะในการประชุม ครม.ได้ ก็ต้องตั้ง ครม.ให้แล้วเสร็จ และนำรายชื่อ ครม. ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯให้พระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง แล้วนำ ครม. ทั้งชุดไปถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงจะปฏิบัติหน้าที่ได้

ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จะไปนั่งหัวโต๊ะในที่ประชุม ครม. (ชุดที่มีนายวิษณุ เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายดอน เป็น รมว.ประเทศ ฯลฯอยู่เวลานี้ที่ครองอำนาจอยู่เพราะผลของรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ที่ให้เป็นต่อไปจนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่เข้ารับหน้าที่) ก็ไม่ได้อีก เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของ ครม. ชุดนี้แล้ว จะเป็นรักษาการนายกฯ ก็ไม่ได้ เพราะ ตอนนี้มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2562

ณ เวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นนายกรัฐมนตรีที่สมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ได้เลย จะเป็นนายกฯ คนใหม่ได้ ก็ต้องตั้ง ครม. และถวายสัตย์ จะไปเป็นนายกฯ คนเก่า ตำแหน่งนี้ก็หายไปแล้ว แต่ปรากฏว่าในสัปดาห์ที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ยังเข้าประชุม ครม.อยู่ และในสัปดาห์นี้ก็ยังเข้าประชุม ครม.อีก และดูทีท่าว่าจะเข้าร่วม ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 (34th ASEAN Summit) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอีกด้วย 

การประชุม ครม.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปนั่งหัวโต๊ะ มติ ครม. จากการประชุม ตลอดจนการลงนามของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในเอกสาร คำสั่งต่างๆ ย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลทางกฎหมาย เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ปราศจากอำนาจอย่างชัดแจ้ง ปัญหาการตั้ง ครม.ไม่ได้ แบ่งเค้กไม่เสร็จ จึงส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็น “นายกฯ ตุหรัดตุเหร่” เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทำงานไม่ได้

ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ อยากทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ พล.อ.ประยุทธ์ คงต้องจัดการแบ่งเค้กเก้าอี้รัฐมนตรีให้เสร็จโดยเร็ว นี่คือสิ่งที่คนเขียนรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้คาดคิดไว้ ก็ใครจะไปรู้ว่า สุดท้ายรัฐบาลชุดใหม่ จะเป็นรัฐบาล “สหพรรค-เสียงปริ่มน้ำ”จนเกิดปัญหาการแบ่งเก้าอี้กันยากขนาดนี้

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : piyabutr saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล