ออกหมายจับอีก 4 ผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทแก๊งวินย่านอุดมสุข หลังจากก่อนหน้านี้จับกุมแล้ว 3 คน รอง ผบก.น.5 ระบุชุดที่ 3 มีมากกว่า 10 คน
จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอพร้อมกับตั้งข้อสังสัย กรณีหนุ่มเคอรี่ที่เสียชีวิตจากเหตุวินรถ จยย.ยกพวกตีกัน พร้อมกับมีการใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณปากซอยสุขุมวิท 103 โดยผู้ที่ร่วมก่อเหตุรายหนึ่ง มีใบหน้าคล้ายกับ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี หรือ หนุ่มเคอรี่ ที่เสียชีวิตด้วยนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติม ประกอบด้วย นายปิยะ พวงเกษร นายรังสรรค์ ศรไชยากร และ นายเจริญ เจริญผล ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างกลุ่มวิน จยย.รับจ้างย่านอุดมสุข หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ซึ่งเมื่อช่วงเช้าระหว่างการเดินเข้าห้องสอบสวน นายปิยะ ได้ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ตนไม่ใช่เป็นคนยิงนายวีรวัฒน์ เสียชีวิตแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก. สน.บางนา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอที่จะเชื่อได้ว่าทั้ง 3 คนมีความผิดจริง ส่วนความคืบหน้าการอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุอีก 4 คน พนักงานสอบสวนได้ยื่นขออนุมัติหมายจับแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รอง ผบก.น.5 กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเพิ่มเติมได้ 2 คน ประกอบด้วย นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ และ นายมานพ มิ่งมงคล โดยทั้งคู่เป็นฝ่ายวินรถจักรยานยนต์ อุดมสุข ซ.1 ทำให้ขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายประมุข วิเชียรดิลกกุล หัวหน้าวินอุดมสุข ซ.1 และ นายวันชัย มงคลเข็ม ซึ่งปรากฎภาพผู้ใช้อาวุธปืนในเหตุการณ์แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นปืนที่ใช้ยิงนายพีรวัฒน์ เสียชีวิตหรือไม่ คาดว่ายังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ กทม.
พ.ต.อ.ธวัชชัย ยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ออกหมายจับเพียงฝั่งใดฝั่งหนึ่ง แต่เป็นการทยอยออกหมายจับ ยืนยันจะออกหมายจับทุกคน ทุกฝ่ายที่ปรากฎอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งหากบุคคลใดรู้ว่าตนเองอยู่ในเหตุการณ์ขอให้เข้ามามอบตัวและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนได้ที่ สน.บางนา ส่วนฝ่ายวิน จยย.รับจ้างอีกฝ่าย จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลอีกจำนวนมาก คาดว่าผู้ที่ถูกขอออกหมายจับชุดที่ 3 จะมีจำนวนมากกว่า 10 คน
ขณะที่ นายกิตติ สุวรรณากาศ พยานผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะตนเข้าไปห้ามกลุ่มวินทั้งสองฝั่ง เห็นว่าทั้งสองฝั่งไม่มีอาวุธปืน มีเพียงไม้เท่านั้น ซึ่งเสียงปืนที่ได้ยินในคลิปคาดว่าอาจเป็นเสียงปืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงขึ้นฟ้าเพื่อระงับเหตุ โดยขณะนั้นเหตุการณ์ชุลมุนมากจนไม่ทราบว่าใครเป็นใคร โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตนมาให้ปากคำเนื่องจากเป็นบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าไม่ได้อยู่ข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่งแน่นอน เพราะรู้จักหมดทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนที่ตี หรือ ผู้เสียชีวิตก็รู้จักกันดี
นายกิตติ ยังเปิดเผยว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าทั้งสองวินมีปัญหามาก่อนหรือไม่ เพราะตนดูแลแค่วินของตน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทั้งสองวินนี้ เพียงแค่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งกรณีการเรียกเก็บค่าดูแลวิน เป็นเงิน 3,500 บาท ขอไม่ตอบในประเด็นนี้ แต่สำหรับวินของตนยืนยันได้ว่าไม่มีแน่นอน