“วิเชียร”ขอเปิดโอกาสผู้คิดต่างแสดงความเห็น

2019-06-14 19:00:48

“วิเชียร”ขอเปิดโอกาสผู้คิดต่างแสดงความเห็น

Advertisement

"วิเชียร "ระบุสิ่งที่ดีต่อระบอบประชาธิปไตยคือเปิดโอกาสให้ผู้คิดต่างได้แสดงความคิดเห็น ระบุความขัดแย้งไม่ได้มาจากแค่เรืีองการเมือง แต่มาจากชีวิตและสังคมของคนไทย

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดงาน70 ปี สถาปนา คณะรัฐศาสตร์ “วิชาการเพื่อราษฎร์ ศาสตร์เพื่อประชาธิปไตย” จัดเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางการเมืองไทยภายใต้รัฐบาลใหม่ การเมืองของความหวัง หรือ จุดเริ่มต้นของวิกฤตครั้งต่อไป” โดยมี นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นางพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย (พทง) และ นายโกวิทย์ พวงงาม สมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไทย ร่วมเสวนา

นายนายวิเชียร กล่าวว่า พลังประชารัฐ เป็นพรรคที่เกิดขั้นมาได้เพียง 6-7 เดือนก่อนการเลือกตั้ง โดยมีความมุ่งหมายที่เกี่ยวเนื่องกับทิศทางการเมือง ประเทศไทยเป็นประเทศที่แปลก ทั้งที่มีประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 2475 นำมาสู่การเลือกตั้ง การปฏิวัติ วนเวียนอยู่อย่างนี้ ที่สำคัญคือ ปี 2516 หลังมีการปฏิวัติ เรามีความรู้สึกว่า มันคือความหวังอันรุ่งโรจน์ ไพศาล และเป็นความเฟื่องฟูของประชาธิปไตย แต่เวลานี้หลังจากที่หยุดไป 5 ปีหลังจากการเลือกตั้ง กลับมีความรู้สึกเฟื่องฟูอีกครั้ง ขณะที่รัฐธรรมนูญปี 2560 นั้นไม่ได้ให้สิทธิสภา หรือประชาชนมีอำนาจเหมือนปี 2540 แต่มีทั้งสภาและองค์กรอิสระ ที่มาทำหน้าที่ตรงนี้ เป็นลูกผสมกับระบอบประธานาธิบดีไปในตัว

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า ผลการเลือกตั้งออกมา พรรคพลังประชารัฐได้ 9 ล้านกว่าเสียง มีเพียง 5 พรรคเท่านั้นที่เกิน 1 ล้านเสียง 9 พรรคเกินแสนคะแนน แต่ไม่ถึง ล้านคะแนน และมี 62 พรรคที่ได้คะแนนในการเลือกตั้ง แต่บรรยากาศการเมืองที่น่ากลัวเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องผลการเลือกตั้งคะแนนปริ่มน้ำ เท่ากับ การโจมตีกล่าวหา แต่บรรยาการทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะพูดใส่ร้ายกันน้อยที่สุด หลังจากนี้เป็นเรื่องของการต่อสู้กันในสภา และคิดว่าสิ่งที่จะดีต่อระบอบประชาธิไตยคือการเปิดโอกาสให้ผู้ที่คิดต่างได้แสดงความคิดเห็น

“บรรยากาศเป็นปกติ เหมือนกับการตั้งรัฐบาลผสมแบบที่ผ่านมา แต่ภายใต้กฎหมายใหม่ สิ่งที่จะเกิดขึ้น ตัวบทกฎหมายบอกไว้ว่า อะไรคือสิ่งทีรัฐมนตรีต้องทำอย่างละเอียด อันนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่า มีคนถามว่า ท่านนายทะเบียนครับ แล้วผมจะทำมาหากินอะไรได้ เพราะเขาห้ามไปหมดรวมถึงคนทีอยู่ข้างหลัง เพราะเป็นสิ่งที่สังคมตรวจสอบอยู่แล้ว เมื่อเราให้อำนาจน้อย เขาก็จะทำอะไรได้น้อยไปด้วย”นายวิเชียร กล่าว 

นายวิเชียร กล่าวว่า เรื่องความขัดแย้งไม่ได้มาจากแค่เรื่องการเมืองเท่านั้น แต่มาจากชีวิตและสังคมของคนไทย ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ดี หากเรายังมีนายทุนที่เข้าถึงทรัพยากรได้มากกว่า การที่เกิดมาไม่ได้มีทุนเหมือนคนอื่น ย่อมก่อให้เกิดความคับแค้น และความเหลื่อมล้ำ ซึ่งสิ่งนี้คือต้นเหตุแห่งปัญหาที่นำไปสู่ปัญหาอื่นๆทั้งหมด