พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวเหยื่อเมาแล้วขับ

2019-06-13 23:10:26

พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวเหยื่อเมาแล้วขับ

Advertisement

ผวจ.กาฬสินธุ์รุดให้กำลังใจครอบครัว “น้องบูม” นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ปี 3 ถูกรถเก๋ง BMW เมาแล้วขับชนเสียชีวิต พร้อมเพื่อนนักศึกษา ด้านพ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกคนเดียว หวังดำเนินคดีคนขับตรงไปตรงมา

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่วัดเกษสมาคม ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้คารวะศพ “น้องบูม” น.ส.ฉัตรศิริ ฉิมณรงค์ อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ปี 3 พร้อมมอบนำเครื่องบริโภคและเงินสดจำนวนหนึ่ง ให้กับนายปัญญา และนางฉัตรมาลี ฉิมณรงค์ บิดามารดาของน้องบูม หลังจากนำศพมาตั้งไว้เพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่ศาลาเก็บศพเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ โดยกำหนดฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 15 มิ.ย. นี้


นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ทราบข่าวน้องบูม  จากทางสื่อโซเชียล และทราบว่าเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เคยได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศเกาหลี แต่เปลี่ยนใจไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และกำลังจะศึกษาต่อในปีที่ 3 แต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พร้อมนักศึกษาหญิงชาว จ.อ่างทอง โดยตามข่าวระบุว่า ถูกเจ้าของรถเก๋ง BMM ชน ขณะขี่จักรยานยนต์หน้าตลาดฟ้าไทย ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย

นายไกรสร กล่าวอีกว่า พอทราบข่าวนักศึกษาสาว ซึ่งเป็นลูกหลานชาวกาฬสินธุ์ ที่เรียนเก่ง เป็นเด็กดี มีอนาคต และเป็นความหวังของพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่กลับต้องมาเสียชีวิต จึงได้มาเยี่ยมให้กำลังใจกับครอบครัวน้องบูม และจะได้มอบหมายทางอำเภอ และส่วนราชการในพื้นที่ เข้ามาช่วยดูแล ให้คำปรึกษา ตลอดทั้งให้การจัดงานพิธีฌาปนกิจ เพื่อไว้อาลัยครั้งสุดท้ายให้กับน้องบูมอย่างดีที่สุด ในเบื้องต้นได้มอบถุงเครื่องบริโภคและเงินช่วยเหลือให้จำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม อยากจะให้อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และเตือนไปยังผู้ที่ดื่มสุรา ขออย่าขับรถหรือยวดยานพาหนะขณะมีอาการเมาสุรา เพราะเมื่อเกิดเหตุแล้วจะสร้างความสูญเสียให้กับทรัพย์สินทั้งของตนเองและของผู้อื่น ซึ่งไม่สามารถที่จะเอาคืนได้ ขอให้อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนด้วย


ด้านนางฉัตรมาลี ฉิมณรงค์ อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 169 หมู่ 3 ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มารดาน้องบูมกล่าวว่า น้องบูมเป็นบุตรสาวคนเดียวของตนกับนายปัญญา ฉิมณรงค์ สามี ซึ่งน้องบูมเป็นดี เรียนเก่ง โดยเฉพาะเก่งภาษาเกาหลี เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนกมลาไสย เคยสอบชิงทุนไปเรียนที่ประเทศเกาหลี แต่เนื่องจากฐานะทางครอบครัวอยู่ในค่อนข้างไม่ค่อยมีเงิน เกรงจะไม่มีเงินส่งเสียน้องบูมจนถึงเรียนจบได้ จึงปรึกษากันสามคนพ่อแม่ลูก และตัดสินใจไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยเลือกเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์

“ตลอด 2 ปีที่ปิดภาคเรียนก็จะกลับมาเยี่ยมบ้าน และเกือบจะทุกวันที่น้องบูมไปศึกษาที่มหาวิทยาลัย ก็จะคุยกันทางโทรศัพท์กันอยู่เสมอ ไม่นึกว่าจะได้รับข่าวร้าย โดยเพื่อนน้องบูมโทรมาแจ้งให้ทราบว่าน้องบูมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ในคืนวันที่ 11 มิ.ย. เวลาประมาณ 22.00 น. ทำให้ตนกับสามีแทบช็อก และถึงแม้ขณะนี้ถึงแม้จะรับศพน้องบูมกลับมารอการฌาปนกิจแล้ว ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ซึ่งทุกรวมทั้งญาติต่างอยู่ในความโศกเศร้าจนร้องไห้แทบไม่ออก ที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนเดียวไปอย่างไม่มีวันคืนกลับมา อย่างไรก็ตาม ก็หวังว่าทางเจ้าหน้าที่ จะดำเนินคดีกับบุคคลที่ขับรถชนน้องบูมเสียชีวิตอย่างตรงไปตรงมา เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับดวงวิญญาณของน้องบูมด้วย” นางฉัตรมาลี กล่าว





ขณะที่นายปัญญา ฉิมณรงค์ อายุ 62 ปี บิดาน้องบูมกล่าวว่า น้องบูมเป็นความหวังของพ่อแม่ และญาติ ครูที่เคยสอนตอนเรียนอยู่โรงเรียนกมลาไสย และเพื่อนๆที่เคยเรียนด้วยกัน ก็หมั่นสอบถามข่าวของน้องบูม และอยากจะเห็นความสำเร็จด้านการศึกษาของน้องบูม พอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก็ได้แต่โศกเศร้าเสียใจและไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะทำใจได้ เพราะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของครอบครัวเรา

“ต้องขอขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ ทำให้มีแรงฮึดสู้กับมรสุมชีวิตต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนเงินที่จะใช้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายงานณาปนกิจศพน้องบูมนั้น คงต้องอาศัยญาติๆและเพื่อนบ้านช่วยกัน เนื่องจากตนไม่มีเงินเก็บออมและสำรองจ่ายเลย จะให้ไปหาหยิบยืมคนอื่นก็ยังหมดหนทาง เพราะตอนนี้คิดอะไรไม่ออก เนื่องจากอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจมาก โดยกำหนดประกอบพิธีฌาปนกิจศพน้องบูมในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2562 นี้” นายปัญญากล่าว