“ปรเมศวร์” ยึดหลักอินทภาษถือปฏิบัติ ไม่ตอบโต้ใคร ไม่ตำหนิใคร ระบุตุลาการที่ดีต้องไม่มีอคติ 4 ประการ ถามจริง ๆ ทำเพราะปกป้อง "พ่อ" หรือทำเพราะ "โทสาคติ" ชี้ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก พูดกันบ่อยๆ สถาบันจะเสียหายสร้างความแตกแยกในสังคมมากขึ้น
จากกรณีมีการขุดภาพเก่า รวมถึงข้อความที่โพสต์โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ มาโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้หนึ่งในผู้ที่ออกมาให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กในเรื่องนี้จนมีคนเข้าไปแสดงความเห็นมากมายคือ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดี สำนักงานอัยการสูงสุด ที่โพสต์ระบุว่า “ตอนเราเด็กเราก็คิดอย่างเด็ก พอเราโตเราคิดอย่างผู้ใหญ่ ทำไมต้องถอยหลังไปเล่นงานตอนเขาเป็นเด็กเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เพื่ออะไร?”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดี สำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ไม่ตอบโต้ใคร ไม่ตำหนิใคร แต่นักกฏหมายสายบ้านเมืองอย่างเราต้องเข้าใจ "หลักอินทรภาษ" (เรียนมาตั้งแต่ปีหนึ่ง และบางคนลืมหมดแล้ว) ซึ่งเป็นคำสั่งสอนของพระอินทร์ที่มีต่อบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นตุลาการว่า การที่จะเป็นตุลาการที่ดีนั้นจะต้องไม่มีอคติ 4 ประการ คือ 1. ฉันทาคติ "รัก" เพราะเป็นลูก เป็นเมีย เป็นญาติ 2. โทสาคติ "โกรธ" เพราะเป็นคู่อาฆาต คู่ศัตรู เคียดแค้นแล้วจ้องจับผิดเพื่อเล่นงานกัน 3. ภยาคติ "กลัว" เพราะโจทก์เป็นผู้มีอำนาจ ถ้าไม่ตัดสินลงโทษจำเลยตามที่เขาสั่ง ก็กลัวว่าเขาจะไม่ชอบ 4. โมหาคติ "หลง" คือ "ความไม่รู้จริง" อาจทำให้ตัดสินผิด ๆ ได้ ฉะนั้น ในคัมภีร์พระธรรมศาสตร์จึงบอกว่า การเป็นตุลาการที่ดี(หรือการตัดสินใครก็ตาม) จะต้องไม่มีอคติ 4 ประการนี้ และต้องตัดสินความตามพระธรรมศาสตร์ โดยครองธรรมอันเป็น "จัตุรัส" คือ เป็นรูป 4 เหลี่ยมไม่พลิกไปพลิกมา ใครก็ตามถ้าตัดสินความโดยมีอคติ ก็จะทำให้ชีวิตเสื่อมถอยประดุจพระจันทร์ข้ามแรม ใครก็ตามที่ตัดสินความโดยปราศจากอคติ 4 ประการ ก็จะทำให้อิสริยยศ ลาภยศต่าง ๆ เจริญรุ่งเรืองประดุจพระจันทร์ข้างขึ้น นี่คือหลักอินทภาษที่นักกฎหมายที่ดีพึงยึดถือปฏิบัติ มิใช่หาเรื่องคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้น ผมถามว่า "เพื่ออะไร?
"คำตอบอยู่ตรงที่ว่า ถามจริง ๆ เถอะทำเพราะปกป้อง "พ่อ" หรือทำ "โทสาคติ" ถ้าทำเพราะปกป้อง "พ่อ" มันควรจะทำตั้งแรกที่เขาปรากฎตัวในสังคม มุมมองที่ต้องวิเคราะห์ตามประสาคนใช้กฏหมายเพื่อความสงบเรียบร้อยและเพื่อการปรองดองของคนในสังคม โฆษกตำรวจก็บอกแล้วว่ากำลังสอบสอน ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก ซึ่งถูกต้องที่สุด พูดกันบ่อยๆ สถาบันจะเสียหาย และ สร้างความแตกแยกในสังคมมากขึ้นนะครับ
ทั้งนี้ได้มีชาวเน็ตเข้าแสดงความเห็นกันมากมายมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับ นายปรเมศวร์
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ปรเมศวร์” ถามถอยหลัง 9 ปี ไปเล่นงาน “ช่อ” เพื่ออะไร