ยูกันดาพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลา รายแรก เป็นเด็กชายวัย 5 ขวบ ข้ามพรมแดนมาจากดีอาร์ คองโก แหล่งระบาดของโรค ขณะเดียวกัน ดีอาร์ คองโก นอกจากเผชิญการระบาดของอีโบลาแล้ว ยังพบการระบาดของโรคหัด มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,500 ราย
กระทรวงสาธารณสุขยูกันดาและองค์การอนามัยโลก หรือฮู แถลงเมื่อวันอังคารว่า ยูกันดายืนยันพบผู้ป่วยรายแรกติดเชื้อไวรัส “อีโบลา” เป็นเด็กชายวัย 5 ขวบชาวคองโก ซึ่งกำลังได้รับการรักษาตัว หลังเดินทางข้ามพรมแดนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หรือดีอาร์ คองโก โดยอาเซง จาเน รุธ รัฐมนตรีสาธารณสุขของยูกันดา ยืนยันกรณีดังกล่าวและเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่อสื่อระหว่างแถลงข่าวในกรุงกัมปาลา เมืองหลวงยูกันดา
ฮูระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า นี้เป็นกรณีแรกที่มีการยืนยันในยูกันดา ระหว่างการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ในดีอาร์ คองโก ประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนเด็กชายที่ติดเชื้อ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว เข้ายูกันดาในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ผ่านทางจุดผ่านแดนบีเวรา พวกเขาเข้ารับการตรวจร่างกายและรักษาที่โรงพยาบาลคากันโด ส่วนตัวเด็กชายถูกย้ายไปรักษาที่ศูนย์รักษาอีโบลาบีเวรา
ฮูบอกว่า ทางสถาบันไวรัสยูกันดา หรือยูวีอาร์ไอ ยืนยันการติดเชื้อเมื่อวันอังคาร และกำลังเฝ้าระวังการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ในภาคตะวันออกของดีอาร์ คองโก กระทรวงสาธารณสุขดีอาร์ คองโก แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า พบผู้ติดเชื้อมากเป็นประวัติการณ์ถึง 2,062 ราย ซึ่งรวมทั้งมีผู้เสียชีวิต 1,390 ราย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลดีอาร์ คองโก ก็ประกาศการแพร่ระบาดของโรคหัดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้ป่วยไปแล้วกว่า 1,500 ราย ตัวเลขล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขคองโก ซึ่งมากกว่าผู้เสียชีวิตจากอีโบลา ขณะที่กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน หรือเอ็มเอสเอฟ ซึ่งเป็นหน่วยงานการกุศลทางการแพทย์ รายงานว่า สถิติผู้เสียชีวิตสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขคองโก ระบุว่า โครงการฉีดวัคซีนแบบครอบคลุม เป็นเพียงวิธีการเดียวในการป้องกันการระบาดของโรคหัด แต่ก็บอกว่า ฝ่ายต่อต้านที่ได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน อาจทำลายแผนการดังกล่าวได้