ครอบครัวร้อง สพฐ. ด.ญ.5 ขวบ ถูก ป.2 ข่มขืน

2019-06-07 12:50:22

ครอบครัวร้อง สพฐ. ด.ญ.5 ขวบ ถูก ป.2 ข่มขืน

Advertisement

“ทนายรณณรงค์” พาครอบครัว ด.ญ.5 ขวบ ถูกล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน จ.อุบลราชธานี เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้าน สพฐ.สั่งย้าย ผอ.รร. ออกจากพื้นที่ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนจากส่วนกลางดูแล


เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมครอบครัวของ ด.ญ.วัย 5 ขวบ เข้าร้องเรียนต่อนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลังเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานเขตพื้นที่เขต 3 แล้วถึง 7 ครั้ง สืบเนื่องจากกรณีที่เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2561 ด.ญ.วัย 5 ขวบ ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ถูกเด็กนักเรียนชายร่วมชั้น และนักเรียนรุ่นพี่ ชั้น ป.2 ข่มขืนช่วงพักเที่ยง ขณะไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ได้รับการเยียวยา


ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือ กล่าวว่า เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้สั่งการให้ ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครอง ลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 3 จ.อุบลราชนี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานถึงสาเหตุความล่าช้า ขณะเดียวกัน ได้สั่งย้าย ผอ.รร.เข้าปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการในสำนักงานเขตพื้นที่เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบหาข้อเท็จจริง


ว่าที่ รต.ธนุ กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกของผู้เสียหาย และจะต้องดำเนินการเยียวยา เด็กทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งเป็นเยาวชน โดยวันนี้ จะตั้งคณะกรรมการ จากส่วนกลางขึ้นอีกชุดหนึ่ง ให้สืบหาข้อเท็จจริงการทำงานของเขตพื้นที่และโรงเรียน ซึ่งผู้ปกครองเด็กไม่มั่นใจว่าจะโปร่งใส โดยให้สรุปผลรายงานใน 7 วัน จะไม่ปล่อยให้เรื่องจบลงโดยไม่มีผู้รับผิดชอบ โดยจะหาแผนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย รวมทั้งได้กำชับทุกโรงเรียนดูแลนักเรียนให้เกิดความปลอดภัย

ด้านผู้ปกครองของ ด.ย. 5 ขวบ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ติดตามเรื่องกับทางโรงเรียนและสำนักงานเขตโดยตลอด แต่โรงเรียนกลับปฏิเสธว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ และ ผอ.ร.ไม่เปิดโอกาสให้เข้าพบ ทั้งที่ครูของโรงเรียนได้ยินคำยืนยันจากแพทย์ของโรงพยาบาล ว่าเด็กถูกกระทำ จึงต้องมาร้องเรียนที่ส่วนกลาง เพื่อขอความเป็นธรรมให้หลาน


ขณะที่ย่าของเด็ก เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนใช้คำพูดที่ทำให้เสียความรู้สึก โดยกล่าวหาว่านำเรื่องนี้มาหาเงิน และยังมีคำกล่าวว่าให้ผู้ปกครองย้ายเด็กออกไปเพราะทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุทางครอบครัวเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเองทั้งหมด อยากให้โรงเรียนแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น