ผู้ประกอบการทำแบรนด์ “บะจ่าง” ขาย พร้อมร่วมมือกับอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก ทำภาชนะเก็บบะจ่างได้นาน 1-2 ปี สามารถส่งขายไปต่างประเทศได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการนำสินค้าไปทดสอบการฆ่าเชื้อเพื่อให้อยู่ได้นาน
วันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน มีเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อของจังหวัดพิษณุโลก ได้ทำบะจ่างในกระบอกไม้ไผ่รสชาติอร่อยหอมนุ่ม โดยร้านดังกล่าว ตั้งอยู่ริมถนนสิงหวัฒน์ (สี่แยกบ้านคลอง) ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก มีนายพิเชษฐ เทอดตระกูลรัตน์ และนางสมร กนกมหกุล สองสามีภรรยา เป็นเจ้าของร้าน โดยนางสมร กล่าวว่า ตนและครอบครัว ได้เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวมานานหลายปี และคิดว่าจะนำบะจ่างมาจำหน่ายให้กับลูกค้า โดยได้สูตรการทำบะจ่างมาจากญาติที่มีสูตรรสชาติหอมนุ่มอร่อย ไม่เหมือนทั่วไป โดยนำกระบอกไม้ไผ่มาเป็นภาชนะใส่บะจ่าง คล้ายๆ กับข้าวหลามทั่วไปและมีขนาดเล็ก สร้างแบรนด์เป็นของตนเอง โดยได้เริ่มจำหน่ายมาแล้วกว่า 1 เดือน สำหรับราคาบะจ่างที่ขายในขณะนี้ ราคากระบอกละ 35 บาท 3 กระบอก 100 บาท
นางสมร กล่าวอีกว่า ตนได้คิดค้นอยากให้บะจ่างของตนเองอยู่ได้นาน จึงได้ประสานกับ ผศ.ดร.ธวัชชัย ศุภวิทิตพัฒนา คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหารของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ในการศึกษาและวิจัยภาชนะหีบห่อบะจ่าง เพื่อให้มีอายุยืนนาน ส่งขายไปได้ไกลๆ จนถึงต่างประเทศ ล่าสุดในวันนี้ ผศ.ดร.ธวัชชัย ศุภวิทิตพัฒนา คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหารของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้นำสินค้าบะจ่าง ที่บรรจุหีบห่อ ที่เป็น Retortpouch (รีทอร์ทพลอช) ที่มีคุณสมบัติทนต่อแรงดันทดแทนการใช้สารกันบูด มีอายุนาน คล้ายกับอาหารกระป๋อง แต่จะต้องสะอาดโดยจะนำไปทำการวิจัยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ภายในบะจ่างก่อน ซึ่งหากเป็นกระบอกไม้ไผ่นั้นก็จะทำให้บะจ่างเสียง่าย ไม่สามารถมีอายุยาวนาน
ผศ.ดร.ธวัชชัย ศุภวิทิตพัฒนา คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหารของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม กล่าวว่า วันนี้จะนำผลิตภัณฑ์ไปทดสอบการฆ่าเชื้อ แล้วทิ้งไว้ตามอุณหภูมิห้อง ซึ่งจากการศึกษาหากเป็นไปตามที่กำหนด ก็จะสามารถเก็บบะจ่างไว้ได้ 1 ปี แต่ถ้านำไปต่างประเทศที่อยู่แถบโซนหนาวก็จะสามารถเก็บไว้ได้ถึง 2 ปีทีเดียว
