ไปไม่รอดกันสักคน !! “ตุ๊ก วิยะดา” เปลือยชีวิตรัก หลังเลิกสามี โดนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งแฟน – คบซ้อน ลั่น ขอเป็นโสดตลอดชีวิต !!
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงและนักร้องเสียงดี ที่มากความสามารถ สำหรับ “ตุ๊ก วิยะดา โกมารกุล ณ นคร” ที่เส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ล่าสุด เจ้าตัวก็ได้มาเปิดใจในรรายการ “คุยแซ่บ SHOW” ถึงเรื่องรักที่ผ่านมาในชีวิตว่า…
พี่แต่งงานตอนอายุ 19 ปี ตอนนั้นคบกันนานมั้ย ถึงแต่ง ?
“คบกันตั้งแต่อายุ 15 ปี เขาเป็นพี่ชายเพื่อน เขามาจีบเราเรียนอยู่ พอแต่งปุ๊บพี่ก็ไปอยู่เมืองนอก 2-3 ปี พี่ตามคนที่แต่งงานด้วยไปเรียนปริญญาโท”
คนก็เมาท์ว่าท้องก่อนแต่ง ? พอแต่งปั๊บไปอยู่เมืองนอก มีลูกเลยมั้ย ? “ขากลับถึงจะมี คือหมายถึงว่าแฟนเรียนปริญญาโทจบแล้ว จะต้องกลับเมืองไทยแล้วถึงได้มีลูก ถึงรู้ว่าตัวเองท้อง” พี่มีลูกกี่คน ? “ลูก 2 คน” ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งหมดกี่ปี ? “ประมาณ 13 ปี” เหตุผลที่ตอนนั้นแยกทางกันเพราะอะไร ? “ในความรู้สึกพี่อาจจะเป็นรักแรก ที่เราอาจจะยังไม่เคยเจอคนอื่น แล้วเขาเองน่าจะเราเป็นทางเลือกแรกๆ พอกลับมาทุกอย่างมันพร้อมหมด มันก็เกิดการเที่ยวขึ้น ก็ได้เจอคนนู้น คนนี้ แต่อันนี้เราไม่โทษใครนะ” ตอนนั้นเข็ดกับความรักมั้ย ? “ไม่เข็ดเลย พี่เป็นคนที่ถ้าเลิกกับใครแล้วพี่มีแฟนวันรุ่งขึ้นได้เลย เพราะพี่ถือว่าการที่เรามีรักใหม่มันทำให้ลืมรักเก่า พี่รู้สึกว่าไม่งั้นก็ไม่ลืมคนเก่าสักที” แล้วมันจะเหมือนหนีเสือปะจระเข้มั้ย ? “อันนี้จริงเลย แล้วก็จะมีแบบว่าแย่กว่าเดิมก็ได้” คนต่อมาไม่ใช่ผู้ชาย ? “ถามว่าเข็ดผู้ชายมั้ย ไม่ แต่เหมือนกับว่าเราผิดหวัง แล้วคนปลอมใจใกล้ตัวเป็นลักษณะนั้นมากกว่า ก็คบกัน 5 ปี แต่ก็เลิกกันเพราะถูกเพื่อนสนิทแย่งไป” อะไรที่ทำให้เปลี่ยนจากผู้ชายมาคบทอม ? “พี่คิดว่ามันไม่เกี่ยวกับเพศ แต่เป็นความรู้สึก ด้วยความใกล้ชิด เขาเข้าใจเรา มีแฟนผู้หญิงมันเหมือนทำอะไรด้วยกันหมด ไม่ว่าจะช็อปปิ้งหรือว่าอะไร” แล้วหลังจากโดนเพื่อนแย่งไป พักก่อนมั้ย ? “ไม่พัก จริงๆ ในปีหลังของ 5 ปีที่ถูกแย่งไป ตอนปีที่ 4 เขาคบซ้อน แต่เรายังทนอยู่ สมัยนั้นเพื่อนทอมจีบฉันหมด ฉันก็บอกว่าไม่ต้องจีบ เสียเวลา ไม่ได้ชอบทอม คืออาจจะมีแฟนเก่าคนนี้คนเดียวที่เป็นทอม แต่ว่าไม่ได้ชอบทอมหมด ก็เลยบอกเพื่อนว่าอย่าเสียเวลาเลย” พอปีที่ 5 เขาขอเลิก หรือพี่ทนไม่ไหว ? “พี่ทนก่อน แล้วพี่ก็ไปงานประกวดอันนึง ไปเป็นกรรมการกับแก๊งนูโว ก็เลยไปปิ้งกับพี่ตั้ม (สมประสงค์) ก็เป็แฟนกับพี่ตั้มปีนึงแต่ไม่ออกสื่อ” ทำไมตอนนั้นเป็นพี่ตั้ม ? “จริงๆ เราสนิทกันอยู่แล้ว อยู่แกรมมี่ด้วยกันมันก็งงเหมือนกัน” เพราะเหงาหรือเปล่า ? “ไม่รู้ แต่ตอนนั้นก็คลิกนะ” ช่วงนั้นเหมือนพี่ตั้มมีแฟนอยู่แล้ว มีเด็กๆ อยู่ตลอดเวลา ? “น่าจะมีอยู่ตลอดเวลา อยู่กับพี่ ตั้มจะแต่งงาน เราก็บอกว่าโอเคตั้มแต่งเลย อยู่ด้วยกันปีนึง” คือเขาจะแต่งงานกับคนอื่น แต่คบกับเรา พี่ทำไง ร้องไห้ เฮิร์ตมั้ย ? “ตอนนั้นไม่เฮิร์ตเลย ก็แล้วแต่ ก็เลือกเอา” วันแต่งงาน วันหมั้น ก็ยังมาให้พี่ผูกเนคไทอยู่ ? “ใช่ เขาบอกผูกเนคไทให้หน่อยงานหมั้น” แต่ทุกวันนี้ก็ยังสนิทกันอยู่ ? “สนิทกันมาก หลังจากปีนั้นก็เป็นเพื่อนกันมาตลอด” ตอนนั้นคบกันผู้ใหญ่รู้มั้ย ? “รู้ ยังถูกตหำนิเลย พ่อบอกว่าไม่ดูแลตัวเองเลย เราก็เลยบอกว่าพ่อ พ่อสนิทกับลูกชาย พ่อถามลูกชายพ่อดีกว่า เราก็เคารพผู้ใหญ่ และเคารพในการตัดสินใจ แต่เราเป็นฝ่ายหญิงเราก็ไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป เพราะมันไม่ได้เป็นข่าวอยู่แล้ว” พอหมดจากพี่ตั้ม ก็มีผู้ชายมาพร้อมครอบครัว ? “ก็ทุกครั้งที่ผิดหวัง ก็จะไปปิ้งคนข้างๆ ที่เป็นเพื่อนอะไรแบบนี้ ซึ่งคนนี้เป็นนักธุรกิจ แต่เขามีครอบครัวแล้ว เรารู้ทีหลัง มันคลิกกันไปแล้ว ก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน สมัยที่เราแต่งงาน เราเห็นเขาคบคนอื่น แล้วเราทนไม่ได้เราแยกทางให้เขาไป แต่พอตอนนี้เราต้องมาเป็นคนที่สองเนี่ย แล้วทุกครั้งจะต้องเป็นบ้านเล็กที่แก่กว่าบ้านใหญ่ทุกที” พี่ตุ๊กทนได้ยังไง ตอนนั้นเป็น “ตุ๊ก วิยะดา” ดังแล้วด้วย ? “ตอนนั้นมันเหมือนชีวิตมันมาเรื่อยๆ เหมือนเรียนรู้ชีวิตมากขึ้น” ถ้าสมมติว่าสื่อรู้ สังคมรู้แล้ว เขาตราหน้าเรา ? “โชคดีนะ ที่สมัยนั้นไม่มีอะไรแรงอย่างนี้ แต่ไม่เป็นไรหรอกพี่ถอนตัวทันหมดแล้ว เพราะพี่กะว่าจะเป็นโสดตลอดชีวิต” เห็นบอกว่าคบกัน 7 ปี อะไรที่ทำให้พี่ถอนตัว ? “ในที่สุดก็ต้องเลิกกัน เพราะว่าภรรยาเขาปรากฎตัวขึ้นก่อนที่จะเลิก แล้วพอภรรยาหลวงกลับไปเขาก็หยิบทิชชูขึ้นมาแผ่นนึงยกให้พี่แค่นี้ พี่ก็เลยเลิกเลย” กับครั้งนี้เจ็บปวดที่สุดมั้ย ? “ก็ยอมรับว่าเจ็บ แต่ไม่ที่สุด” เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เป็นโสดถึงทุกวันนี้มั้ย ? “ยังมีๆ ทุกวันนี้คนยังบอกว่าอย่าเพิ่งพูดว่าไม่มี เพราะว่าดูตามดวงชะตาแล้ว ยังไม่หมด แต่พี่ก็บอกว่าขอเถอะ ขอให้หมด เพราะฉะนั้นทุกคนบนโลกนี้ถ้าเป็นไปได้สวดมนต์ไหว้พระ กรวดน้ำคว่ำขันเลยดีกว่าไม่ต้องไปใช้หนี้ใคร อโหสิกรรมให้หมด” ตอนนั้นที่ภรรยาเขาอาละวาดแรงที่สุด เขาทำอะไร ? “เขาก็มานั่งว่าพี่ ก็ว่าแรงอ่ะ” เคยคิดไหมว่าเราต้องตกอยู่ในฐานะภรรยาน้อย ? “ตอนนั้นคิดตลอดเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่ได้คิดจะแย่ง เหมือนบางช่วงเวลาที่เราไปแอบดูคนที่เป็นแฟนสามีเรา แล้วเราก็มีความรู้สึกว่าทำไมเราถึงไม่เกลียดเขา คือมันไม่มีอะไรเหมือนในละครที่ลงไปแล้วกระชากเขา” คือพี่ยอมเจ็บเพราะรัก ? “ก็ไม่ได้เจ็บมากนะ เจ็บพอประมาณ” หลังจากคนนี้ คนต่อไปก็มีครอบครัวแล้ว ? “ใช่ พี่คิดว่ามันเป็นหนี้เก่าที่ตามมาใช้กัน” คนต่อไปนี่อีกกี่ปี ? “15 ปี แต่อย่างที่พี่บอก รีเลชั่นของพี่แต่ละครั้งมันมาจากเพื่อน ความเห็นอกเห็นใจเรื่องชู้สาวไม่ต้องพูด มันเป็นเรื่องข้างเคียง เป็นเรื่องที่ไม่ได้จุดใหญ่เลย มันเป็นการมีกันและกัน มีความผูกพัน” จากนักธุรกิจมาเป็นนักดนตรี แล้วเขามีครอบครัวแล้ว ? “แอบมี จริงๆ ตอนนั้นความเป็นเพื่อนของพี่กับรุ่นน้องมันสนิททุกคนกัน พูดง่ายๆ มันผูกพันกันทุกคนมันทำงานร่วมกันมาเป็นสิบปี” แล้วรอบนี้บ้านใหญ่รู้มั้ย ? “ไม่แน่ใจ” 15 ปีจบลงเพราะ ? “เพราะว่าด้วยความเป็นผู้ใหญ่ และด้วยทางที่มันต้องแยกกัน อาจจะเป็นบุญของเรา ที่เรามาพบกับความโสด แล้วเราก็มีความรู้สึกว่าโลกนี้ที่ไม่ต้องอยู่เพื่อใครมันดีอย่างนี้นี่เอง” ถ้าวันนี้เลือกได้ย้อนกลับไปพี่จะคบกับ 3 คนหลังที่พี่คบมั้ย ? “ไม่คบสักคน ถ้าย้อนกลับไปคงจะอยู่กับพี่ปุ๋ยพ่อของลูก แต่ว่าตอนนี้เจอกันก็เป็นพี่น้องกันแล้ว แต่ถ้าเราประคองได้เราคงเป็นคนดีกว่านี้”
“สมัยก่อนถ้าไม่รู้ว่าแต่งงานกับคนนี้ไม่มีการเสียตัวนะ คือสมัยนี้จะซื้อรถต้องลองขับ สมัยก่อนกว่าจะตกร่องปล่องชิ้นใช้เวลานานมาก”