เจ้าหน้าที่ป่าชายเลนตรัง เตรียมเข้ารื้อถอนศาลาเรียนรู้ ศาสตร์พระราชา ถ่ายทอดการอนุรักษ์สัตว์น้ำประมงชายฝั่งบ้านน้ำราบ ซึ่งเคยได้รับการชมเชยการร่วมใจของชาวบ้านจากรองนายกรัฐมนตรี และออกอากาศในรายการเดินหน้าประเทศไทย ของ คสช. ก่อนหน้านี้ อ้างไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่จากหน่วยงานป่าชายเลน
วันที่ 19 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชา ชมรมประมงพื้นบ้าน บริเวณพื้นที่บ้านน้ำราบ ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จ.ตรัง หลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไปนั้น ซึ่งที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายหลงเฝียะ หรือ บังเดียร์ ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านน้ำราบ โดยที่ทางหัวหน้าสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 40 (บางสักตรัง)สั่งให้รื้อถอนโดยระบุว่าสิ่งปลูกสร้างไม่ได้แจ้งหรือรับการยินยอม อนุมัติจากหน่วยงาน จนสมาชิกในกลุ่มประมงพื้นบ้านได้รวมตัวกันออกมาประกาศยุติความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
โดยในวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางพรรณภา สัมวงษ์ เลขากลุ่มประมงพื้นบ้านน้ำราบ โดยนางพรรณภาแจ้งว่า นายหลงเฝียะ หรือ บังเดียร์ ประธานกลุ่มได้พากลุ่มนักท่องเที่ยวลงแพไปก่อนหน้านี้ จึงเป็นตัวแทนในการนำผู้สื่อข่าวลงสำรวจพื้นที่บริเวณทั่วไป ซึ่งนางพรรณภา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่ทางเจ้าหน้าที่ให้รื้อถอนนั้นมี 3 จุด เป็นศูนย์การศึกษาเรียนรู้ป่าชายเลน ก่อนหน้านี้เคยสร้างอยู่บริเวณด้านในถัดไป ซึ่งไม่สะดวกกับนักท่องเที่ยวหรือนักศึกษาที่เข้ามาศึกษาเรียนรู้ จึงเปลี่ยนที่ใหม่ขยับมาสร้างบริเวณด้านหน้า ซึ่งการก่อสร้างก็ไม่ได้ใหญ่โต สร้างเป็นตัวอาคารเปิด ใช้ฝาผนังเป็นที่ติดโปสเตอร์ไวนิลแสดงโชว์ข้อมูลต่าง ประกอบการเรียนรู้ มีโรงสาธิตการเพาะเลี้ยงลูกปูและสาหร่ายทะเล ซึ่งในอนาคตข้างหน้าจะเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับชุมชนในอนาคต และเป็นที่พักรับรองนักท่องเที่ยวขณะที่รอเดินทางลงแพหรือเดินทางกลับ
ส่วนจุดที่ 2 คือ ศาลาใช้จอดเรือคายัค ก่อนหน้านี้เคยเก็บเรือไว้ในห้องประชุมแต่ทุกครั้งที่มีการประชุมกลุ่มพื้นที่ไม่เพียงพอ จึงสร้างศาลาเป็นโครงสร้างไม้หลังคามุงจาก ขึ้นมาเพื่อเก็บเรือคายัคเท่านั้นเพื่อสะดวกในการที่คนในกลุ่มนำเรือคายัคลงเรือไปพร้อมกับนักท่องเที่ยว ส่วนจุดที่ 3 อาคารจอดรถ มีเพียงเสาไม้และหลังคาสังกะสี สำหรับไว้บริการลูกค้าที่เข้ามาท่องเที่ยว แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมจอดรถทิ้งไว้กลางลานมากกว่า ซึ่งทั้ง 3 จุดที่สร้างมาไม่ได้สร้างไว้เพื่อประโยชน์ของตนเอง แต่สร้างไว้อำนวยความสะดวกและสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมแทบทั้งสิ้น
สำหรับธนาคารปูม้าเป็นโครงการเพาะพันธุ์ปูม้าและนำไปปล่อยตามธรรมชาติ เพื่อให้ชาวบ้านได้มีรายได้ ซึ่งแม่ปูก็จะเอามาจากชาวประมง หลังจากรอแม่ปูสลัดไข่แล้วก็จะนำทั้งไข่ปูและแม่ปูปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ แม่ปู 1 ตัว ให้ลูกปู 3 แสนตัว และนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้ทางกลุ่มมีพันธุ์ลูกปูให้ปล่อยทุกวัน เพราะที่ศูนย์ไม่ได้เพาะหรือฟักไข่ให้เป็นตัว แต่นำไข่ปูที่แม่ปูสลัดแล้วนำไปปล่อย ก็คาดหวังให้ลูกปู 3 แสนตัวรอดสักหมื่นตัว ก็ถือว่าเกินเป้าแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนนี้ชาวบ้านต้องออกเรือไปหากินไกล แต่ตอนนี้ไม่ต้องเดินทางไปไกลประหยัดค่าน้ำมันเพราะค่าน้ำมันในการออกเรือแต่ละครั้งแพงมาก ซึ่งเมื่อก่อนชาวบ้านมีรายได้ 2,000-3,000 บาท แต่ปัจจุบัน 6,000-7,000 บาท ต่อคนต่อวัน
สำหรับศูนย์การศึกษาเรียนรู้ป่าชายเลนบ้านน้ำราบนั้น ตนมองว่าเป็นศาสตร์ของพระราชา ที่ทางรัฐบาลเองมีการขับเคลื่อนเพื่อประโยชน์สุขของชุมชน ประชาชน แต่จู่ ๆ ก็มีคำสั่งให้รื้อถอนและเอาผิดกับผู้นำองค์กรประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านที่เป็นกลุ่มอนุรักษ์ที่ทำมาด้วยแรงใจแรงกายมายาวนานกว่า 30 ปี ตนเองมีความเห็นว่าไม่ควรรื้อถอนอยากให้มีศูนย์ศึกษาเรียนรู้แห่งนี้ต่อไป