ทำแผน! สาวใหญ่ฆ่ายาย 72 ร่ำไห้ไม่มีเจตนา

2019-05-19 14:40:16

ทำแผน! สาวใหญ่ฆ่ายาย 72 ร่ำไห้ไม่มีเจตนา

Advertisement

รวบสาวใหญ่ มือมีดกระซวกยาย 72 เจ้าของหอพัก ดับคาห้องเช่า หนีคดี 19 ปี ไม่รอด ตำรวจตามรวบลากตัวทำแผน คุกเข่าจุดธูปขอขมาวิญญาณ ร่ำไห้สารภาพไม่มีเจตนาแค่ป้องกันตัว ปฏิเสธลั่นไม่ได้ชิงทรัพย์

วันที่ 19 พ.ค. ที่ห้องประชุม สภ.เมืองจันทบุรี พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธณะ รอง ผบช.ภ.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัว น.ส.ชนิตา หรือ อมร อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 95 ม.9 ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายศาล จ.จันทบุรี ที่ 278 / 2545 ลงวันที่ 18 พ.ย. 2542 คดีอาญา ท้องที่ สภ.เมืองจันทบุรี ในคดี ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และญาติผู้เสียชีวิต

หลังจากที่ น.ส.ชนิตา ผู้ต้องหา ขณะนั้น อายุ 22 ปี ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายเจ้าของหอพักวัย 72 ปีจนเสียชีวิต ภายในห้องเช่า เลขที่ 37 ถ.พระยาตรัง ต.วัดใหม่ อ.เมือง จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2542 หลังก่อเหตุ น.ส.ชนิตา ได้หลบหนีไปจนถึง ณ วันที่ถูกจับกุมตัวรวมระยะเวลานานถึง 19 ปี




ต่อมา พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธณะ รอง ผบช.ภ.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัว น.ส.ชนิตา ผู้ต้องหา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในห้องเช่าชั้น 2 อาคารพาณิชย์ 3ชั้น ซึ่งเป็นหอพักที่เกิดเหตุ โดยให้จำลองเหตุการณ์ พฤติกรรมขณะลงมือก่อเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้โอกาส น.ส.ชนิตา ผู้ต้องหา จุดธูปขอขมาดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต โดยทาง น.ส.ชนิตา ผู้ต้องหา ได้ร่ำไห้กล่าวขอขมา ทั้งน้ำตาว่า “ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายยายให้ถึงแก่ความตาย ที่ทำไปเพราะแค่ต้องการป้องกันตัวเท่านั้น ขอให้ยายอโหสิกรรมให้ด้วย โดยหลังจากนี้จะขอไปชดใช้กรรมที่ก่อขึ้นในเรือนจำ”

ต่อมาในขณะที่ทำแผน น.ส.ชนิตา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ กล่าวอ้างว่า ในวันเกิดเหตุ ได้มีปากเสียงทะเลาะกับเจ้าของหอพักผู้เสียชีวิต ภายในห้องพัก เรื่องที่ บอกให้ตนเอง ทำความสะอาดห้อง และ ทางเดินเข้าหอพัก จากนั้นยายเจ้าของหอพักได้เดินกลับลงไปที่ชั้นล่าง และเดินกลับขึ้นมามีปากเสียงกันอีกครั้ง ขณะนั้นยายได้ถืออาวุธมีด ปอกหมาก ติดมือขึ้นมาด้วย ทำให้เกิดการฉุดกระชากกัน เพื่อแย่งมีด จนผู้ต้องหาผลักยายล้มลง และแย่งอาวุธมีดมาได้ จึงแทงสวนกลับไป 1 ครั้ง จนทำให้ยายนอนฟุบแน่นิ่ง



หลังก่อเหตุได้เกรงกลัวความผิด จึงรีบเก็บเสื้อผ้าหลบหนีไปอยู่ที่ จ.สระแก้ว โดยในขณะนั้นไม่ทราบว่ายายได้เสียชีวิตแล้ว ต่อมา ได้หลบหนีไปทำงาน อยู่ที่ กรุงเทพฯ และย้อนกลับมาทำงานอยู่ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งต้องพยายามปิดบังอำพรางตัวเองตลอดเวลาที่หลบหนี เพื่อป้องกันการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ จนมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด รวมระยะเวลาที่หลบหนีนานถึง 19 ปี 

ด้าน พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธณะ รอง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาตามหายศาลคือ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ส่วนคำการที่ผู้ต้องหา ปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าผู้ตายเพื่อทำการชิงทรัพย์นั้น เป็นคำสารภาพหรือกล่าวอ้างของผู้ต้องหาเองในขณะทำแผน ซึ่งจะนำไปประกอบสำนวนคดีไต่สวนในชั้นศาล ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะสามารถแจ้งข้อกล่าวเพิ่มเติมได้

ขณะที่ นายสุริยา พรมวิจิต อายุ 49 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 19 ปีที่แล้ว ได้พบกับ น.ส.ชนิตา ผู้ต้องหา ขณะเดินทางโดยรถโดยสาร มาขอเช่าห้องพัก อ้างว่ามาหางานทำ หลังเช่าห้องได้ประมาณ 3 เดือน จึงได้มาก่อเหตุใช้อาวุธมีด ฆ่าแม่ของตัวเอง ซึ่งในวันเกิดเหตุ ตนเองได้เข้ามาตรวจสอบพบว่า ทรัพย์สินภายในตัวของแม่ ทั้งสร้อยข้อมือเลส สร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง แหวนทอง และเงินสด รวมมูลค่ากว่าแสนบาท ได้หายไป ทำให้เชื่อว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการ ฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ ซึ่งตนเองจึงไม่เชื่อในคำให้การรับสารภาพของผู้ต้องหา เนื่องจากแม่ เป็นคนมีจิตใจดี ระหว่างที่ ผู้ต้องหามาเช่าห้องพัก ยังเคยทำกับข้าวให้กินประจำ ไม่มีเหตุผลที่ต้อง ไปทะเลาะวาท ถึงขนาดถือมีดไปทำร้ายผู้ต้องหาอย่างแน่นอน โดยหลังจากนี้ จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป