โฆษกศาลยุติธรรมยืนยันการตรวจสอบ
“ศิริชัย วัฒนโยธิน” เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีการแทรกแซงกลั่นแกล้ง
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม แถลงกรณีนายศิริชัย
วัฒนโยธิน อดีตประธานศาลอุทธรณ์
ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานศาลฎีกา และ
ยังถูกคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(อ.ก.ต.) และ คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
(ก.ต.) ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ว่า ก.ต. รวมถึง คณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
มีการหาพยานหลักฐานตามขั้นตอน ตรงตามข้อเท็จจริงและเปิดโอกาสให้ทางนายศิริชัย
ได้ชี้แจงถึง 2 ครั้ง
เกี่ยวกับประเด็นการโอนสำนวนคดี และการเพิกถอนสำนวนคดี เมื่อพิจารณาจากหลักฐานและข้อเท็จจริงทำให้ได้ข้อสรุปว่านายศิริชัย
ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ที่ได้รับตำแหน่งประธานศาลฎีกา
เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นในศาลสูงสุด
อย่างศาลฎีกาได้ จึงต้องพิจารณาให้ ผู้ที่มีอาวุโสลำดับที่สอง มาดำรงตำแหน่ง
ทำตามขั้นตอนของกฏหมาย ยืนยันคณะกรรมการ
ทั้งของ อ.ก.ต. และ ก.ต.เป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิ มีเกียรติ
ไม่สามารถมีการเข้าไปแทรกแซงได้ ตามที่นายศิริชัยกล่าวอ้าง
ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยเกี่ยวกับการเพิกถอนคดี
และการโอนสำนวนคดี ที่มีการยกมาพิจารณา
ตามที่นายศิริชัย มีการอ้างถึงว่าไม่มีระเบียบขั้นตอนในการปฏิบัตินั้น นายสืบพงษ์ กล่าวว่า
ในข้อเท็จจริงมีระเบียบขั้นตอนในการปฏิบัติ
ซึ่งต่อจากนี้หากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีความเห็นว่ามีความผิดจริง ก็สามารถลงโทษตามหลักปฏิบัติได้
และมีผลย้อนหลังได้แม้ว่านายศิริชัย จะลาออกไปแล้วก็ตาม คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณา 30 วัน
หรือสามารถขยายระยะเวลาได้อีกสองครั้ง ครั้งละ 15 วัน
และหากว่ามีการลงความเห็นว่านายศิริชัยผิด
ในส่วนของคดีที่เกี่ยวข้องก็จะมีการนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพื่อความถูกต้อง
และเมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณาแล้วจะนำผลมาแสดงต่อสาธารณชนต่อไป
นายสืบพงษ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา
ที่นายศิรัชัยอ้างว่า เป็นตำแหน่งที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ในข้อเท็จจริง ก.ต.
สามารถตั้งตำแหน่งใหม่ ที่เทียบเท่าตำแหน่งอื่นได้ ขอยืนยันว่าตำแหน่งดังกล่าวชอบด้วยกฏหมาย
ส่วนที่นายศิริชัย มีการออกแถลงข่าวพาดพิง
กระบวนการศาลยุติธรรมซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
ทางสำนักงานศาลยุติธรรมจะไม่มีการฟ้องนายศิริชัย เนื่องจากเป็นบุคลาการตุลาการที่มีผลงานสร้างคุณงามความดีมาอย่างยาวนาน ยืนยันไม่มีการเมืองภายในศาลยุติธรรม
หรือมีการเล่นพรรคพวกอย่างแน่นอน