“ธนาธร” นำทีมบุกขึ้นเชียงใหม่ เรียกคะแนนเสียงให้กับลูกพรรคที่จะลงเลือกตั้งซ่อมแทน ส.ส.สุรพล เขต 8 พรรคเพื่อไทยที่ถูกแจกใบส้ม ขอคนเชียงใหม่ที่รักประชาธิปไตยช่วยเหลือให้ได้คะแนนเสียงมากกว่า 55,000 คะแนน ช่วยสกัดทีม คสช.สืบทอดอำนาจ
วันที่ 12 พ.ค. นายธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมแกนนำพรรคอีกหลายคน เดินทางพบปะประชาชนพื้นที่ อ.จอมทอง อ.สันป่าตอง อ.ดอยหล่อ และ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ช่วยเรียกคะแนนให้กับนางศรีนวล บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 ของพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 พ.ค. ที่จะถึงนี้ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง สั่งแจกใบส้มเพิกถอนสิทธินายสุรพล เกียรติไชยยากร ผู้สมัครหมายเลข 8 ส.ส.พรรคเพื่อไทยซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้มีแฟนคลับจำนวนมากมาคอยต้อนรับกันอย่างคับคั่ง
นายธนาธร กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาเชียงใหม่ เพื่อที่จะเปิดคลิ๊กออฟการรณรงค์ครั้งใหม่ การเลือกตั้งซ่อมในเขต 8 ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 ของพรรคอนาคตใหม่ ก็ยังเป็นคนเดิม ซึ่งเขต 8 นั้นครอบคลุมทั้งหมด 4 อำเภอคือ จอมทอง, สันป่าตอง, ดอยหล่อ และแม่วาง เป็นเขตแรกและเขตเดียวในประเทศไทยที่มีการเลือกตั้งซ่อม ที่จะเกิดขึ้นวันที่ 26 พ.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ พรรคอนาคตใหม่เราถือว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่สำคัญ การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคที่ได้อันดับ 1 ได้คะแนนไป 52,000 คะแนน ส่วนพรรคอนาคตใหม่ได้ไปเพียง 29,556 คะแนน เป็นอันดับสาม ซึ่งการเลือกตั้งซ่อมในเขต 8 ครั้งนี้ ไม่ใช่สำคัญเฉพาะในเขตพื้นที่เชียงใหม่ แต่สำคัญกับการเมืองระดับชาติ ทั้งกระดาน ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่จึงให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้มาก เพราะจะทำให้จำนวน ส.ส. พึงมีเพิ่มขึ้น จึงขอให้ชาวเชียงใหม่ออกมาเลือกตั้งใช้สิทธิ์กันให้มาก และการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ขอคะแนนเสียงจากประชาชนผู้รักประชาธิปไตยให้ได้ มากกว่า 55,000 เสียงขึ้นไป เพื่อให้ได้ ส.ส.พึงมี เพิ่มอีกหนึ่งคน หมายความว่าจะได้นางศรีนวล มาเพิ่ม ขณะเดียวกันพรรคก็จะไม่เสียนายจุลพันธ์ โนนศรีชัย ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรคอันดับสุดท้ายไป วิธีนี้จะทำให้จำนวน ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่เพิ่มขึ้นและจะส่งผลให้จำนวน ส.ส.ของพรรคที่ร่วมกันต่อต้านเผด็จการเพิ่มจาก 245 เป็น 246 เสียง เข้าใกล้ 250 เสียงมากขึ้นทุกขณะ
นายธนาธร บอกเพิ่มเติมอีกว่า พรรคที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากรวมกันแล้วมี 375 เสียง หรือมากกว่า เมื่อคุยและตกลงกันได้แล้วว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือฝ่ายค้าน ในจำนวน 375 เสียงนี้ หากพรรคใดที่มีเสียงข้างมาก พรรคอนาคตใหม่ก็พร้อมยกมือสนับสนุน