เรือนจำปล่อย 5 แกนนำพันธมิตรฯ

2019-05-10 14:10:08

เรือนจำปล่อย 5 แกนนำพันธมิตรฯ

Advertisement

5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซาบซึ่งในพระมหากรุณาธิคุณได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวพ้นเรือนจำ “สมศักดิ์” ลั่นออกมาแล้วจะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติจนกว่าชีวิตจะหาไม่ โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชั่นปัญหาใหญ่ของประเทศ

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมราชทัณฑ์ได้ทำพิธีปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศที่ความประพฤติดีให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ และปล่อยตัว เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป ตามพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562 ทั้งนี้มีอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 5 คน ที่ถูกพิพากษาจำคุกในคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาล ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากกระทำความผิดในคดีอื่น ได้รับเพียงการพระราชทานลดวันต้องโทษตามสัดส่วน


นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ จนมีการปล่อยตัวนักโทษในวันนี้ ผมในฐานะพสกนิกรของพระองค์ มองว่าการปล่อยตัวนักโทษในวันนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก จากการศึกษาพระราชกฤษฎีกา พบว่าก่อนจะออกมา กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงกลาโหม ได้จัดอบรมหลักสูตรการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว เราอบรม 5 วัน เรารู้ว่านักโทษทั้งหลายอยากกลับบ้านกัน ทุกคนปรบมือกันลั่น นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ 10 หน่วยงานระดับกระทรวงดูแลช่วยเหลือ และติดตามไม่ให้คนกระทำผิดซ้ำอีก พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ต้องการให้คนกลับตัวเป็นคนดี ไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก ผมขอขอบคุณพี่น้องที่ยังห่วงใยพวกผมอยู่

ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า ในนามของผู้ถูกคุมขังและในนามครอบครัว รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ พวกเราทราบกันดีว่าที่ต่อสู้ทำทุกอย่างก็เพื่อทำหน้าที่ปวงชนชาวไทยปกป้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งนี้ออกมาแล้วจะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติจนกว่าชีวิตจะหาไม่ โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชั่นเราจะไม่ยอมให้ผ่านหน้าเราไป ถ้าเรารู้จะเข้าไปต่อสู้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ


ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา กล่าวว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานอภัยโทษให้กับพวกเราและนักโทษหลายหมื่นคน จากนี้ไปสิ่งที่เป็นบทเรียนในชีวิตเราก็ต้องมานั่งคิดทบทวนกัน พวกผมอยู่ในเรือนจำทั้งหมด 87 วัน ยืนยันเราพร้อมพิสูจน์ความสุจริตในกระบวนการยุติธรรม แม้ศาลจะตัดสินต่างจากที่คาดหวัง แต่การยอมรับคำพิพากษา โดยเฉพาะคำพิพากษาเด็ดขาดในชั้นฎีกา เป็นทิศทางเดียวที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองรอดได้ สิ่งที่เรายืนหยัดมาตลอด 10 ปี ตั้งแต่มีคดีความ เรายังศรัทธา เชื่อมั่นระบบยุติธรรมของไทย เรายังต้องพิสูจน์ความสุจริตใจในคดีอื่นอีกต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ