คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองมินนีแอโพลิส สหรัฐอเมริกา ตกลงยอมความนอกศาล และจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทน จำนวน 20 ล้านดอลลาร์ (640 ล้านบาท) แก่ครอบครัวของผู้หญิงที่ปราศจากอาวุธคนหนึ่ง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต เมื่อเธอวิ่งเข้าหารถยนต์สายตรวจของตำรวจ ที่เดินทางไปตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งเหตุร้าย 911 ว่าเกิดเหตุข่มขืนภายในตรอกหลังบ้านผู้ตาย
นายจาค็อบ เฟรย์ นายกเทศมนตรีเมืองมินนีแอโพลิส และสมาชิกสภาเทศบาลของเมือง เปิดเผยข้อตกลงยอมความ เพียงแค่ 3 วันหลังจากคณะลูกขุนมีคำตัดสินว่า นายโมฮัมเหม็ด นูร์ วัย 33 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายโซมาเลีย ตำรวจในสังกัดของเมืองมินนีแอโพลิส มีความผิดฐานฆาตกรรม และฆ่าคนตายโดยประมาท ในการเสียชีวิตของ นางสาวจัสติน รัสซิค ดามอนด์ อายุ 40 ปี ซึ่งถือ 2 สัญชาติ อเมริกัน-ออสเตรเลีย เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ค. 2560
ข้อมูลส่วนหนึ่งจากการไต่สวนคดี ระบุว่า นูร์และเพื่อนอีกนายหนึ่ง ขับรถยนต์สายตรวจเอสยูวีเข้าไปในตรอก ตามที่ได้รับแจ้งเหตุ ทั้งสองตกใจเสียงดังด้านข้างรถยนต์ และเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยกมือข้างขวา นอกหน้าต่างด้านคนขับ นูร์ให้การว่า เขาใช้ปืนยิงออกไปที่ผู้หญิง ซึ่งมีท่าทีเป็นภัยคุกคาม เพื่อป้องกันตัวเขาและเพื่อนตำรวจ
คดีนี้ครอบครัวของน.ส.ดามอนด์ ยื่นฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ (1,598 ล้านบาท) โดยระบุว่า “สิทธิพลเมือง” ของน.ส.ดามอนด์ ถูกล่วงละเมิด การเจรจาต่อรองสุดท้ายตกลงกันได้ที่ 20 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเทศบาลเมืองมินนีแอโพลิสจะใช้เงินจากกองทุนประกันตนของเมืองจ่าย โดยมีเงื่อนไขว่า ครอบครัวผู้ตายจะต้องบริจาคเงินจำนวน 2 ล้านดอลลาร์ (63.9 ล้านบาท) แก่กองทุนมูลนิธิของเมือง ที่ใช้สำหรับการรณรงค์แก้ไขปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืนด้วย
น.ส.ดามอนด์เสียชีวิตขณะที่เธอเตรียมเข้าสู่พิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่ม ส่วนนูร์ถูกไล่ออกจากตำรวจของเมืองหลังเกิดเหตุ และขณะนี้ถูกคุมขังในระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งศาลกำหนดอ่านคำพิพากษาโทษ ในเดือน มิ.ย.ที่จะถึง