“ธนาธร”ชี้คดีโอนหุ้นมีธงหวังผลการเมือง กระบวนการตั้งข้อหาไม่เป็นธรรม เตรียมฟ้องกลับ กกต. ผิด ม.157 แต่จะรอจน คสช. หมดอำนาจ
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงกับอนุกรรมการไต่สวนของ กกต. กรณีการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด หลังจาก กกต. มีมติแจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ชี้แจงภายใน 7 วัน
โดยหลังใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง นายธนาธรเปิดเผยว่า ตนมั่นใจว่า คดีนี้มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย เนื่องจาก กกต. ตอบคำถามในประเด็นต่างๆที่ตนสอบถามกลับไปไม่ได้เลย และยังพบว่าบันทึกข้อกล่าวหามีเนื้อหาเพียง 30 บรรทัด โดยเป็นการอ้างข้อความจากสื่อบางสำนัก จากการตรวจสอบพบว่าในบันทึกข้อกล่าวหามีหลายอย่างระบุไม่ชัดเจน เช่น รายละเอียดเรื่อง บมจ.5 หรือ สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ที่ไม่ระบุวันที่ มีเพียงการระบุว่าตรวจสอบแล้วว่ามีชื่อนายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งตามหลักการกฎหมาย บมจ.5 ไม่ใช่เอกสารหลักฐาน ว่าได้มีการโอนหุ้นไปแล้วเมื่อใด นอกจากนี้ยังพบว่า กระบวนการตั้งข้อกล่าวว่า ไม่ได้เปิดโอกาสให้ตนชี้แจงข้อกล่าวหา มีเพียงเอกสารส่งไปยังนางสมพร จึงรุ่งเรื่องกิจ มารดาของนายธนาธร ที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 13.45 น. แจ้งให้มาให้ถ้อยคำกับ กกต. เวลา 10.30 น. ในวันเดียวกัน. ซึ่งไม่สามารถทำได้แน่นอน จากนั้นวันที่ 23 เม.ย. ก็มีการแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งหมดนี้ไม่เป็นธรรมสำหรับตนในฐานะผู้เสียหาย
นายธนาธร กล่าวต่อว่า เตรียมทำคำให้การเพิ่มอีก 1 ประเด็น คือ การตั้งข้อกล่าวหาโดยมิชอบ และขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีกับ กกต. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่จะรอ คสช. หมดอำนาจไปก่อน จึงจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมาตรา 157 มีอายุความ 15 ปี
นายธนาธร เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนกับสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด มีคดีความรวม 16 คดี นับตั้งแต่ทำพรรคมา 1 ปี ซึ่งทำให้เสียเวลาในการปกป้องผลประโยชน์ให้กับประชาชน จากการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เพราะตนต้องมาแก้ข้อกล่าวหาคดีต่างๆ