ร้อนจัด “ลิ้นจี่” ไม่ออกผล เกษตรกรเศร้า! สูญรายได้ 10 ล้าน

2019-04-27 17:30:23

ร้อนจัด “ลิ้นจี่” ไม่ออกผล เกษตรกรเศร้า! สูญรายได้ 10 ล้าน

Advertisement

เกษตรกรสวนลิ้นจี่ฝันสลาย! อากาศร้อนจัด ลิ้นจี่ไม่ออกผล ขาดรายได้หลัก 10 ล้าน หันตอนกิ่งขายชดเชย เผยรอบ 10 ปี ออกผลน้อย งดออเดอร์ส่งออกขายจีน

วันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ถือว่าสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในรอบหลายปีที่ผ่านมา บางวันมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ล่าสุดได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรชาวสวนลิ้นจี่ ในพื้นที่ ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตลิ้นจี่ขึ้นชื่อ สายพันธุ์ท้องถิ่น ชื่อว่า นพ 1 เกือบ 1,000 ไร่ สร้างผลผลิตให้เกษตรกร มีรายได้ มานานกว่า 30 ปี เนื่องจากเป็นลิ้นจี่ที่มีผลดก รสชาติหวานกรอบ อร่อย ไม่แพ้สายพันธุ์ทางภาคเหนือ โดยทุกปี ในช่วงเดือนมีนาคม –เดือนเมษายน จะมีผลผลิตออกขายสู่ตลอด ทั้งในประเทศไทย รวมถึงส่งออกไปจีน สร้างรายได้หมุนเวียนปีละกว่า 50 ล้านบาท

แต่ปีนี้ผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้ เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ฝันสลาย แทบน้ำตาตก เนื่องจากบางรายมีรายได้ คนละไม่ต่ำกว่า 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งมีราคาซื้อขายกันกิโลกรัมละประมาณ 70 -80 บาท แต่ปีนี้ถึงแม้จะมีราคาแพง เนื่องจากผลผลิต ออกน้อย ทำให้มีราคาสูงตกกิโลกรัมละ 150 บาท แต่ไม่มีผลผลิตส่งออกขาย เนื่องจากสภาพอากาศร้อน ทำให้ ลิ้นจี่ไม่ออกดอก ไม่ออกผล ขณะเดียวกันทำให้ เกษตรกร บางรายได้หันไป ทำการตัดตอนกิ่งพันธุ์ลิ้นจี่ ส่งขาย เพื่อเป็นการชดเชย สร้างรายได้ แก้ไขปัญหาการขาดทุน




ด้าน นายวินัย คำสุจริต อายุ 50 ปี ชาวสวนลิ้นจี่บ้านขามเฒ่า ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ตนทำสวนลิ้นจี่จำนวน 3 ไร่ แต่ทุกปีได้ผลผลิตดี เนื่องจากพื้นที่ดินแถบนี้ติดกับแม่น้ำโขง เหมาะแก่การเพาะปลูก โดยเฉพาะลิ้นจี่สายพันธุ์ นพ 1 ถือเป็น ลิ้นจี่ขึ้นชื่อที่ชาวบ้าน มีการปลุกพัฒนามายาวนานกว่า 30 ปี จนเป็นสายพันธุ์ขึ้นชื่อ และสร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างมากในช่วงเดือนเมษายน แต่ปีนี้ ผลจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้ลิ้นจี้ไม่ออกดอก ออกผล ผลผลิตลดลงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ปกติตนจะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 1 -2 ตัน ปีนี้ได้ผลผลิตประมาณ 150 -200 กิโลกรัมเท่านั้น จึงได้รวมกลุ่มกับเพื่อนที่ปลูกลิ้นจี่ด้วยกัน หันไปตอนกิ่งลิ้นจี่ขาย เพราะคนส่วนใหญ่สนใจต้องการปลูกลิ้นจี่ โดยเฉพาะลิ้นจี่พันธุ์ นพ 1 ของนครพนม ถือว่าเป็นพันธุ์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติที่มีความหวานอมเปรี้ยว ไม่ฉ่ำน้ำ มีลูกขนาดใหญ่ แถมยังปลูกง่ายได้ผลดีอีกด้วย ซึ่งตนได้เริ่มทำการตอนกิ่งมาตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.แล้ว และพบว่ามีออเดอร์ทางออนไลน์มากถึง 5,000 กิ่ง ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนที่อยู่ทางภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถปลูกลิ้นจี่ได้ โดยกิ่งใหญ่ขายในราคา ประมาณ 200 บาท กิ่งเล็กขายในราคา 50 บาท ใช้เวลาปลูก 3-4 ปี ได้ผลผลิต ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัดให้ได้มีรายได้อีกทางหนึ่ง